วันนี้ (27 เม.ย.2565) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 ลงพื้นที่หาเสียงเขตสายไหมและบางเขน พร้อมกับ ปวีณา หงสกุล โดยเริ่มต้นสักการะเจ้าอาวาสวัดเกาะสุวรรณาราม รับฟังปัญหาในพื้นที่ เช่น ปัญหาสัตว์จรจัดในวัด จากนั้นขึ้นขบวนรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมปวีณา หาเสียงจากซอยวัดเกาะไปตลาดยิ่งเจริญ ทักทายพ่อค้าแม่ค้า พบปะประชาชนที่เข้ามาจับจ่ายในตลาด พร้อมสำรวจแนวทางจัดการขยะและน้ำเสียของตลาดด้วย
วันนี้ (27 เม.ย.65) "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่หาเสียง วัดเกาะสุวรรณาราม เขตสายไหม พูดคุยปัญหา #หมาจรจัด กับเจ้าอาวาส หลังได้รับแจ้งว่า วัดต้องจัดโซนเลี้ยงหมาแมวจรจัดที่ถูกญาติโยมนำมาทิ้งกว่า 50 ตัว #ThaiPBSnews pic.twitter.com/h7rQDoIzSs
— Thai PBS News (@ThaiPBSNews) April 27, 2022
ชัชชาติ ระบุว่า ตลาดยิ่งเจริญเป็นตัวอย่างการจัดการปัญหาขยะและน้ำเสียตั้งแต่ต้นทาง ซึ่ง กทม.ต้องเข้ามาดูแลเรื่องขยะและน้ำเสีย และสามารถเริ่มต้นจากตลาดเป็นพื้นที่นำร่อง เนื่องจากเป็นแหล่งผลิตขยะและน้ำเสียจำนวนมาก โดยวางมาตรการการคัดแยกขยะในพื้นที่ตลาดของ กทม. และเอกชน พร้อมจัดการระบบบำบัดน้ำเสียให้ทันสมัยและได้มาตรฐาน

นอกจากนี้ ชัชชาติ ยังย้ำความสำคัญของนโยบายบริหารจัดการดี ซึ่งเป็นหัวใจของนโยบายพัฒนากรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน โดยเฉพาะแนวคิด “โปร่งใส ไม่ส่วย ไม่เส้น” คือมุ่งจัดการปัญหาคอร์รัปชั่นภายใน กทม. อย่างจริงจัง มีมาตรการตรวจสอบ ลงโทษผู้ที่กระทำความผิดทั้งในระดับผู้บริหารและระดับปฏิบัติการ พร้อมพัฒนาระบบติดตามการขออนุญาติต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าพนักงาน
ข้าราชการ กทม.ต้องหันหลังให้ผู้ว่าฯ และหันหน้าให้ประชาชน ข้าราชการ กทม.ต้องเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ต้องเปลี่ยนวิธีคิด กระจายอำนาจ และฟังประชาชนให้เยอะ พวกนี้จริง ๆ แล้วมันทำได้เลย ไม่ต้องรองบประมาณ ผมคิดว่า 100 วันแรกจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้

ชัชชาติ กล่าวเพิ่มเติมถึงปัญหาเรื่องส่วยของเทศกิจว่า การเก็บส่วยของเทศกิจต้องเป็นศูนย์ และจะไม่อดทนต่อการทุจริตคอร์รัปชัน หากจับได้จะต้องมีการลงโทษอย่างรุนแรง ข้าราชการและลูกจ้าง กทม. ต้องอย่าเอาเปรียบประชาชน รวมถึงการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งต้องโปร่งใส เพื่อจัดการกับต้นตอของปัญหา ซึ่งการจัดการปัญหาดังกล่าวไม่ใช่เรื่องยากและสามารถดำเนินการได้ทันที