DSI ตรวจสอบออกเอกสารสิทธิทับที่ป่ากระบี่ 125 ไร่ ซื้อขาย 3.5 พันล้าน

สิ่งแวดล้อม
27 เม.ย. 65
18:51
676
Logo Thai PBS
DSI ตรวจสอบออกเอกสารสิทธิทับที่ป่ากระบี่ 125 ไร่ ซื้อขาย 3.5 พันล้าน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
อธิบดี DSI ตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ และป่าสงวนฯ พบออกเอกสารสิทธิในพื้นที่อุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เขตป่าอ่าวนาง ป่าหางนาค จ.กระบี่ รวม 125 ไร่ มีการซื้อขายไร่ละ 25 ล้านบาท รวม 3,500 ล้านบาท สั่งบินโดรนบินสำรวจ-ทวงคืนทรัพยากรธรรมชาติ

วันนี้ (27 เม.ย.2565) นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยนายศุภชัย คำคุ้ม ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาค 8 กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค เข้าพบนายสุพจน์ ภู่รัตนโอภา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 และ พ.อ.ดุสิต เกษรแก้ว ผู้แทน กอ.รมน.ภาค 4 ณ สำนักงานอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี โดยได้ประชุมหารือและร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกที่ดินของรัฐเพื่อเอกสารสิทธิในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี และพื้นที่เขตป่าอ่าวนาง และป่าหางนาคบางส่วน

 

ก่อนหน้านี้ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 8 กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่สืบสวนพบข้อเท็จจริงว่า พื้นที่ที่มีการบุกรุกดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนาง และป่าหางนาค ในพื้นที่ ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ และพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ซึ่งได้มีการออกเอกสารสิทธิในบริเวณที่ดินของรัฐดังกล่าว จำนวน 6 แปลง ได้แก่

1.หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) เลขที่ 751 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ซึ่งออกจากหลักฐานเดิมคือแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เลขที่ 23 หมู่ที่ 4 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่

2.หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 777 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ซึ่งออกจากหลักฐานเดิมคือแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เลขที่ 79 หมู่ที่ 4 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่

3.หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 791 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ซึ่งออกจากหลักฐานเดิมคือแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เลขที่ 104 หมู่ที่ 4 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่

4.หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 799 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ซึ่งออกจากหลักฐานเดิมคือแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เลขที่ 96 หมู่ที่ 4 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่

5.หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 800 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ซึ่งออกจากหลักฐานเดิมคือแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เลขที่ 94 หมู่ที่ 4 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่

6.หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1340 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ซึ่งออกจากหลักฐานเดิมคือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 44 หมู่ที่ 4 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ และหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 94 ได้ออกสืบเนื่องจากแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เลขที่ 94 หมู่ที่ 4 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ โดยหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) ได้ออกเอกสารสิทธิในช่วงปี พ.ศ.2526-2528 มีแต่หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก.) เลขที่ 1340 ซึ่งได้ออกเมื่อปี พ.ศ.2539

 

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ในวันนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น พบว่าการออกเอกสารสิทธิ์มีการทับพื้นที่ของอุทยานฯ และพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งจากการประเมินมูลค่าความเสียหายต่อรัฐแล้ว การบุกรุกพื้นที่ดังกล่าวนั้นได้มีการซื้อขายในราคาไร่ละ 25,000,000 บาท ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีเนื้อที่จำนวน 125 ไร่ จึงมีมูลค่ากว่า 3,500,000,000 บาท

ทั้งนี้ จะมีคำสั่งให้ศูนย์ปฏิบัติการแผนที่และภูมิสารสนเทศ กองเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำอากาศยานไร้คนขับมาบินสำรวจแผนที่บริเวณอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราทั้งหมด เพื่อสำรวจและอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศ พื้นที่การครอบครองเอกสารสิทธิ์ว่าถูกต้องหรือไม่ พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน มาทำการรังวัดพื้นที่ โดยจะมีการบูรณาการร่วมกันระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กรมอุทยานแห่งชาติฯ และกรมที่ดิน เพื่อทวงคืนทรัพยากรธรรมชาติให้กลับมาเป็นสมบัติของรัฐต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง