ความคืบหน้ากรณีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุพืช จับกุมขบวนการค้าสัตว์ป่า โดยพบมีลูกเสือโคร่ง 2 ตัวและนกเงือกอีก 10 ตัว ซึ่งมีรายงานเบื้องต้นอ้างว่าอาจจะมีการจับลูกเสือโคร่งจากป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
วันนี้ (15 พ.ค.2565) นายผด็จ ลายอง ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ขณะนี้มีการส่งลูกเสือโคร่งของกลางทั้ง 2 ตัวไปดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ โดยมีการจัดทีมสัตวแพทย์ สัตวบาลในการดูแลลูกเสือโคร่งทั้ง 2 ตัวอย่างใกล้ชิด เนื่องจากพบว่าลูกเสือยังมีอาการเครียด และตื่นคน แต่เริ่มกินนมและกินอาหารได้แล้ว
ตอนนี้ต้องรอให้ลูกเสือหายเครียดก่อน ยังบอกไม่ได้ว่าจะใช้เวลา 1-2 สัปดาห์หลังจากนี้ เพราะต้องมีการเก็บตัวอย่างเลือด ตรวจสอบดีเอ็นเอเสือทั้ง 2 ตัวว่าเป็นเสือโคร่งสายพันธุ์ไทยหรือไม่

ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหารับสารภาพว่ามาจากฟาร์มเพาะเลี้ยงและอีกกระแสบอกว่าจับมาจากพรานป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เบื้องต้นยังไม่สรุปที่มาของลูกเสือโคร่งทั้ง 2 ตัวจนกว่าจะมีการตรวจดีเอ็นเอหาที่มาของสายพันธุ์
ยอมรับว่าตกใจ ถ้าเป็นการจับมาจากป่าตามข้อมูลที่กล่าวอ้าง และมากลับลำอ้างว่ามาจากฟาร์มเพาะเลี้ยง ก็เป็นเรื่องสนุก และต้องแกะรอยได้ไม่ยาก เพราะถ้ามาจากฟาร์มเพาะเลี้ยงจริง กรมอุทยานฯมีฐานพันธุกรรมเสีือในกรงเลี้ยงไว้ทั้งหมดแล้ว
แกะรอยลูกเสือจากป่า-ฟาร์ม ถ้าหายเครียดเจาะเลือด
เมื่อถามถึงขบวนการค้าลูกเสือที่พบถี่ขึ้นทั้งกรณีที่จับลูกเสือโคร่งชื่อขวัญ และคดีที่บก.ปทส.จับได้อีก 3 ตัว นายเผด็จ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาขบวนการค้าสัตว์ป่าอาจจะอั้นมานานเพราะข้อจำกัดเรื่องการเดินทางในช่วงโควิด-19 กระทั่งมีการเปิดการเดินทาง ขบวนการจึงเริ่มเคลื่อนไหว ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่ทีมชุดจับกุมสามารถตัดวงจรของกลุ่มค้านี้ได้ ถือเป็นคุณูปการที่จะปกป้องสัตว์ป่าที่อยู่ในขบวนการนี้
หลังจากนี้จะประสานกับชุดจับกุม ตำรวจในการแกะรอยเส้นทางค้าลูกเสือโคร่ง เพื่อต่อจิ๊กซอว์การลักลอบที่ชัดเจนขึ้น เบื้องต้นลูกเสือโคร่งขวัญ ตัวแรก กับอีก 2 ตัวนี้ไม่น่าจะมีแหล่งที่มาเดียวกัน กรมอุทยานฯ กำลังเก็บเลือดตรวจดีเอ็นเอ และหาเส้นทางของลูกเสือ

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ทีมวิจัยเสือ คาดลูกเสือ 2 ตัวไม่ใช่จากป่าห้วยขาแข้ง
ขณะที่ เพจเฟซบุ๊ก Thailand Tiger Project DNP ระบุว่า ลูกเสือในข่าว หลายหลากข้อสงสัยที่ส่งเข้ามาถาม เกี่ยวกับที่มาที่ไปของ 2 ลูกเสือล่าสุด ทางแอดมินสอบถามข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาประชากรเสือโคร่งในพื้นที่ต้องสงสัย ที่ไม่ใช่ห้วยขาแข้งแน่นอน
ในช่วงที่ผ่านมาก็เจอเสือโคร่งแม่ลูก แต่คะเนแล้วลูกเสือพวกนั้น มีอายุมากกว่า 2 สองตัวของกลาง ส่วนเสือตัวเมียอื่นๆ ก็ไม่มีแววว่าจะตั้งท้องในช่วงเวลาที่สำรวจ
ความซอกแซกที่ได้มาคงทำให้สาวกเสือทั้งหลายคลายความกังวล ความห่วงใยต่อเสือโคร่งในธรรมชาติลงได้ พอประมาณแล้วโปรดอย่ามาถามต่อว่า แล้วลูกเสือมันมาจากไหน แต่ตอบได้ว่า “เสือไหนๆ ก็มีลูกได้ ไม่ใช่แต่เฉพาะในป่า”

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ขณะที่เพจเฟซบุ๊กประชาสัมพันธ์กรมอุทยานฯ โพสต์ข้อความว่า สัตว์ป่าของกลาง เพราะสัตว์ป่าไม่ใช่สัตว์เลี้ยงกรมอุทยานฯ มีหน้าที่ดูแลสัตว์ป่าของกลาง หลายครั้งพบว่าผู้เลี้ยงแอบนำสัตว์ป่าไปเลี้ยงเพราะเห็นว่าในตอนเล็กๆ นั้นดูน่ารัก แต่เมื่อโตขึ้นก็เลี้ยงไม่ไหว บ้างก็แอบเอาไปปล่อย ซึ่งสัตว์ป่าที่พบบ่อยครั้งนั่นก็คือ นาก
นอกจากนี้ยังมีสัตว์ป่าของกลางที่เกิดจากการจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ส่งผลให้สัตว์ป่าของกลางมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยส่วนใหญ่พบอยู่ในสภาพบาดเจ็บ อ่อนแอ และเครียดและตายได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
รวบพ่อค้าสัตว์ป่ารายใหญ่ ยึดลูกเสือโคร่ง-นกเงือก 10 ชีวิต
แท็กที่เกี่ยวข้อง: