ศูนย์จีโนม ถอดรหัสพันธุกรรม "ฝีดาษลิง" คาด 2 สัปดาห์มีชุดตรวจ

สังคม
23 พ.ค. 65
14:30
1,558
Logo Thai PBS
ศูนย์จีโนม ถอดรหัสพันธุกรรม "ฝีดาษลิง" คาด 2 สัปดาห์มีชุดตรวจ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ศูนย์จีโนมฯ โรงพยาบาลรามาธิบดี เร่งพัฒนาชุดตรวจ "ฝีดาษลิง" โดยใช้พิมพ์เขียวถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อจากโปรตุเกส-เบลเยียม มาพัฒนาชุดตรวจชุดตรวจจีโนมไวรัสก่อโรคฝีดาษลิง คาดอีก 2 สัปดาห์แล้วเสร็จ ชี้อนามัยโลก จับตาพบ 3 วันมีรายงาน 100 คนใน 12 ประเทศ

วันนี้ (23 พ.ค.2565) ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยา ลัยมหิดล โพสต์เฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics เกี่ยวกับการเตรียมการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของไวรัสก่อโรคฝีดาษลิง เพื่อช่วยในการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ และช่วยตอบคำถามว่าทำไมจึงมีการระบาดของโรคฝีดาษลิงพร้อมกันกว่า 100 คนในหลายประเทศนอกทวีปแอฟริกา (ซึ่งถือเป็นโรคประจำถิ่น) ทั้งในยุโรบ สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย

การตรวจวินิจฉัยไวรัสก่อโรคฝีดาษลิง ทางห้องปฏิบัติการด้วยการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม ทางศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯ พร้อมร่วมสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐ โดยสามารถรับสิ่งส่งตรวจที่ผ่านการสกัดสารพันธุกรรมเป็นที่เรียบร้อยมาร่วมด้วยช่วยกันถอดรหัสพันธุกรรม

ทั้งนี้เพื่อลดต้นทุนในการตรวจคัดกรองตัวอย่างส่งตรวจจำนวนมาก หากมีการระบาดใหญ่ของไวรัสก่อโรคฝีดาษลิงเกิดขึ้นในอนาคต ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯ กำลังพัฒนาการตรวจสอบ 40 ตำแหน่งบนจีโนมของไวรัสก่อโรคฝีดาษลิง (เพื่อป้องกันผลบวกและผลลบปลอม) ใช้เวลาในการพัฒนาประมาณ 2 สัปดาห์จากนี้ 

ในช่วง 3 วันมีรายงานจาก WHO พบผู้ติดเชื้อที่ยืนยันจากผลแลปในห้องปฏิบัติการ และผู้ต้องสงสัยติดเชื้อมากกว่า 100 คน จาก 12 ประเทศคือ สเปน โปรตุเกส สหรัฐอเมริกา แคนาดา สวีเดน อิตาลี เบลเยียม  ฝรั่งเศส เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย  อิสราเอล
ภาพ: Center for Medical Genomics

ภาพ: Center for Medical Genomics

ภาพ: Center for Medical Genomics

 

ต่อจิ๊กซอว์-พบสายพันธุ์ระบาดจากแอฟริกาตะวันตก

ศูนย์จีโนมฯ ระบุ ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าทำไมมีการระบาดของโรคฝีดาษลิงในหลายประเทศทั่วโลกพร้อมกันในขณะนี้พบเพียงว่าจากการถอดรหัสพันธุกรรม ทั้งจีโนมของไวรัสก่อโรคฝีดาษลิงที่พบในโปรตุเกส และเบลเยี่ยมในเดือนพ.ค.นี้

ปรากฏว่า เป็นสายพันธุ์จากแอฟริกาตะวันตก และมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับไวรัสฝีดาษลิง ที่เคยแพร่ระบาดจากประเทศไนจีเรีย มายังหลายประเทศในยุโรป ระหว่างปี 2561 และ 2562 คือ สหราชอาณาจักร อิสราเอล และสิงคโปร์

ขณะนี้มีวัคซีน และย้าต้านไวรัสที่คาดว่าใช้ป้องกันและรักษาโรคฝีดาษลิงได้ แต่อาจต้องประเมินผลอีกครั้งจากการใช้จริงในปัจจุบัน

โรคฝีดาษลิง หรือโรคไข้ทรพิษลิง (Monkeypox) เกิดจากไวรัสที่มีจีโนมเป็นดีเอ็นเอสายคู่ เป็นไวรัสที่มีขนาดใหญ่เกือบเท่ากับแบคทีเรีย  มีวิวัตนาการก้าวล้ำกว่าไวรัสประเภทอื่น จนสามารถเพิ่มจำนวนได้ในไซโตพลาสซึมของเซลล์เหมือนแบคทีเรีย ไม่ใช่ในนิวเคลียสเหมือนไวรัสทั่วไป มีอัตราการกลายพันธุ์ต่ำกว่าไวรัสโคโรนา 2019 มาก

เนื่องจากมีเอ็นไซม์ของไวรัสเอง ที่สร้างขึ้นมาคอยแก้ไขตำแหน่งกลายพันธุ์บนจีโนม ไม่ได้ก่อโรคติดเชื้อรุนแรงเมื่อเทียบกับไวรัสไข้ทรพิษ (Smallpox) ซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 30%

ผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิง จะมีอาการไข้ ออกผื่นเป็นตุ่มน้ำพอง และมีหนอง และต่อมามีการตกสะเก็ด เกิดเป็นแผลเป็น มี 2 สายพันธุ์หลัก สายพันธุ์คองโกซึ่งรุนแรงกว่ามีผู้เสียชีวิตมากถึง 10% และสายพันธุ์แอฟริกาตะวันตกซึ่งมีอัตราการเสียชีวิต 1% ส่วนใหญ่หายเองได้ สายพันธุ์ที่มีรายงานการระบาดในยุโรป อเมริกา และออสเตรเลีย ขณะนี้จากการถอดรหัสพันธุกรรม พบว่าเป็นสายพันธุ์แอฟริกาตะวันตก ซึ่งไม่รุนแรง(mild)

ส่วนใหญ่เป็นการติดต่อจากสัตว์ฟันแทะหรือลิงป่าจากแอฟริกาสู่คนด้วยการถูกสัตว์กัดหรือข่วน แตะต้องสัตว์ป่วย หรือกินเนื้อสัตว์ป่าที่ไม่สุก

ภาพ: Center for Medical Genomics

ภาพ: Center for Medical Genomics

ภาพ: Center for Medical Genomics

แพร่เชื้อต่างกับโควิด 

ในกรณีการติดต่อระหว่างคนสู่คน การติดต่อของโรคฝีดาษลิงแตกต่างจากไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งแพร่ติดต่อผ่านละอองน้ำลายเล็กๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศที่เรียกว่าละอองลอย(aerosols) ส่วนไวรัสก่อโรคฝีดาษลิง จะแพร่กระจายจากการสัมผัสใกล้ชิดกับของเหลวในร่างกาย เช่น น้ำลายจากการไอ หรือน้ำหรือหนองจะตุ่มแผลที่ปนเปื้อนตามที่นอนและของใช้นั่นหมายความว่าคนที่เป็นโรคฝีดาษลิง มีแนวโน้มที่จะแพร่เชื้อได้น้อยกว่าคนที่เป็นโควิด-19 มาก

ไวรัสทั้ง 2 ชนิดในระยะแรก จะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ หรือหัด แต่ไวรัสก่อโรคฝีดาษลิง จะกระตุ้นให้ต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งเป็นลักษณะเด่นแยกจากโรคหัด สุกใส งูสวัด ฝีดาษคน ที่สุดเกิดเป็นตุ่มแผลที่เต็มไปด้วยของเหลว มีลักษณะเฉพาะที่ใบหน้า มือ และเท้า คนส่วนใหญ่หายจากโรคฝีดาษลิงภายในไม่กี่สัปดาห์โดยไม่ต้องรักษา แต่อาจมีแผลเป็นเกิดขึ้นตามตัวและใบหน้า

ถอดรหัสจีโนมฝีดาษลิง 100 ตัวอย่างต่อวัน 

จีโนม ของไวรัสก่อโรคฝีดาษลิง ประกอบด้วยลำดับเบส (A,T,G, หรือ C) เรียงสลับกันไปมาประมาณ 196,858 ตำแหน่งหรือตัวอักษร การวิเคราะห์สายวิวัฒนาการ จากรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม บ่งชี้ว่าไวรัสก่อโรคฝีดาษลิงที่ระบาดในปี 2565 ในโปรตุเกส และเบลเยียม เป็นสายพันธุ์จากแอฟริกาตะวันตก และมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดที่สุด กับไวรัสฝีดาษลิงที่แพร่จากประเทศไนจีเรียไปยังหลายประเทศในยุโรประหว่างปี 2561 และ 2562 อันได้แก่ สหราชอาณาจักร อิสราเอล และสิงคโปร์ 

หากสงสัยว่ามีการระบาดของโรคฝีดาษลิงในคนเกิดขึ้นในประเทศเป็นจำนวนมาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถทำการ “สวอป” น้ำลาย ส่วนน้ำหรือหนองจากตุ่มแผล ทำการสกัดสารพันธุกรรม ส่งมายังศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯเพื่อให้ร่วมด้วยช่วยกันถอดรหัสพันธุกรรม

ในระยะแรกที่ยังไม่มีชุดตรวจ PCR แพร่หลาย ทางศูนย์จีโนมทางการแพทย์สามารถร่วมถอดรหัสพันธุกรรมด้วยเทคโนโลยี long-read nanopore sequencing ในลักษณะของ “shortgun metagenomic sequencing” กล่าวคือไม่จำเป็นต้องทราบว่าในสิ่งส่งตรวจมีจุลชีพ หรือไวรัสประเภทใดได้สำเร็จภายในเวลา 48 ชั่วโมง

หากใช้ “ชิพ (flow cell) ขนาดเล็กในการถอดรหัสพันธุกรรม จะสามารถถอดรหัสพันธุกรรมได้ประมาณ 20 ตัวอย่างต่อชิพ  แต่หากใช้ชิพใหญ่ในการถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสโรคฝีดาษลิง ทั้งจีโนม จะสามารถตรวจสอบ หรือถอดรหัสพันธุกรรมได้มากกว่า 4,000 ตัวอย่างต่อชิพ ผลลัพธ์ที่ได้คือจะทราบว่ามีจุลชีพหรือไวรัสประเภทใดบ้าง และจำนวนเท่าไรในตัวอย่างส่งตรวจนั้นๆ

ภาพ: Center for Medical Genomics

ภาพ: Center for Medical Genomics

ภาพ: Center for Medical Genomics

อีก 2 สัปดาห์พัฒนาชุดตรวจฝีดาษลิง 

ล่าสุด มีการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของไวรัสก่อโรคฝีดาษลิง ในโปรตุเกส เบลเยียมได้สำเร็จ ซึ่งทางศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯ ได้ใช้รหัสพันธุกรรมดังกล่าวเป็นพิมพ์เขียวในการสร้างชุดตรวจจีโนมไวรัสก่อโรคฝีดาษลิง 40 ตำแหน่งพร้อมกัน เพื่อป้องกันการเกิดผลบวก หรือผลลบปลอม (ต่างจาก PCR ซึ่งตรวจจีโนมได้ 1-2 ตำแหน่ง) ใช้เวลาในการตรวจประมาณ 24 ชั่วโมงด้วยเทคโนโลยี “Massarray genotyping” สามารถตรวจได้ 100 ตัวอย่างต่อวัน

ด้วยต้นทุนการตรวจต่ำกว่าการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม โดยมีค่าใช้จ่าย และระยะเวลาที่ใช้ตรวจไม่ต่างจากการตรวจ PCR ที่ใช้ตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯ คาดว่าจะสามารถพัฒนาชุดตรวจด้วยเทคโนโลยี Massarray genotyping ได้แล้วเสร็จในอีกประมาณ 2 สัปดาห์จากนี้ แต่หวังว่าจะไม่มีการระบาดของไข้ฝีดาษลิง หรือไข้ทรพิษลิงเกิดขึ้นในประเทศไทย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

อังกฤษยืนยัน "ฝีดาษลิง" ระบาดในประเทศ แต่ความเสี่ยงยังต่ำ

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง