วันนี้ (2 มิ.ย.2565) เสาไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในโครงการของ จ.นครศรีธรรมราช งบฯอุดหนุนจากรัฐบาลปี 2560 มูลค่าต้นละกว่า 65,000 บาท ถูกติดตั้งเมื่อปลายปี 2560 กว่า 2,000 ต้น กระจายบนถนน 22 สาย วงเงินกว่า 194 ล้านบาท ปัจจุบันเสื่อมสภาพใช้การไม่ได้ หลังใช้งานไปได้เพียง 2 ปีเศษ ส่วนใหญ่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปฏิเสธรับการถ่ายโอน เพราะต้องใช้งบฯบำรุงรักษาจำนวนมาก
โครงการนี้ถูกภาคประชาสังคมร้องตรวจสอบต่อเนื่อง และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าไปสอบสวนในทางลับด้วย จนพบอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายฮั้วประมูล และข้าราชการระดับสูงสังกัดกระทรวงมหาดไทยและภาคเอกชนเกี่ยวข้องกว่า 20 ราย ล่าสุดดีเอสไอสรุปผลการสอบสวนก่อนส่งต่อให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
มีรายงานว่า ป.ป.ช.นครศรีธรรมราช ส่งสำนวนการสอบสวนกลับไปให้ ป.ป.ช.ภาค 8 สอบสวนอีกครั้ง เพราะเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจและผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก มีพยานหลักฐานซับซ้อน
ประเด็นสำคัญที่พบว่าอาจเข้าข่ายการฮั๊วประมูลคือการกำหนดสเปกการก่อสร้างต่างๆ เช่น ไม่กำหนดราคากลาง เสา 2,900 ชุด ตกราคาต้นละ 65,000 บาท ขณะที่ท้องตลาดมีราคาเพียง 25,000 บาทเท่านั้น