วันนี้ (7 มิ.ย.2565) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในหลักการเพิ่ม "ซาอุดีอาระเบีย" ในรายชื่อประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทาง หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราและอยู่ในราชอาณาจักรไม่เกิน 30 วัน
ทั้งนี้ เป็นผลจากการที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ และทั้ง 2 ฝ่ายได้ประกาศปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันให้กลับสู่ระดับปกติอย่างสมบูรณ์
ผลการหารือที่สำคัญด้านหนึ่งคือการส่งเสริมการติดต่อระหว่างภาคประชาชน โดยจะทำให้มีชาวซาอุดีอาระเบียเดินทางมาท่องเที่ยวไทยมากขึ้น จากเดิมรัฐบาลซาอุดีอาระเบียจะอนุญาตให้ชาวซาอุดีอาระเบียเดินทางมาไทยปีละประมาณ 30,000 คน เพิ่มขึ้นเป็นปีละ 100,000-150,000 คน
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ทุกหน่วยงานไม่มีข้อขัดข้องที่จะเพิ่มซาอุดีอาระเบียให้ได้รับสิทธิในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งชาวซาอุดีอาระเบียเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ มีการใช้จ่ายสูงและมักเดินทางเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ คาดว่าจะสร้างรายได้ให้ประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี
รองโฆษกสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันผู้ถือหนังสือเดินทางชาวซาอุดีอาระเบียสามารถขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival) โดยพำนักในประเทศไทยได้ 15 วัน เสียค่าธรรมเนียมรายละ 2,000 บาท
แท็กที่เกี่ยวข้อง: