ภาคปชช.ให้กำลังใจ "พิธา" อภิปรายจัดสรรงบฯ ลดเหลื่อมล้ำ

การเมือง
9 มิ.ย. 65
12:05
77
Logo Thai PBS
ภาคปชช.ให้กำลังใจ "พิธา" อภิปรายจัดสรรงบฯ ลดเหลื่อมล้ำ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ภาคประชาชนให้กำลังใจ "พิธา" หลังอภิปรายการจัดสรรงบฯปี 66 โดยเฉพาะการทบทวนการใช้งบประมาณเพื่อลดความเหลือมล้ำให้กับประชาชน

วันนี้ (9 มิ.ย.2565) เวลา 10.10 น.นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.พรรคก้าวไกล และคณะ รับมอบปิ่นโต ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของระบบบำนาญของประชาชนในประเทศไทย และการขอบคุณจาก นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว และนายนิมิตร์ เทียนอุดม ตัวแทนเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ และคณะ ในโอกาสที่ได้อภิปรายถึงแนวทางการจัดสรรงบประมาณด้านสวัสดิการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 พ.ค.2565 ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบผลการพิจารณาศึกษา เรื่องแนวทางการเสนอกฎหมายบำนาญพื้นฐานแห่งชาติ และทางเครือข่ายฯ ได้ทำหนังสือยื่นต่อประธานรัฐสภาให้นำรายงานฉบับดังกล่าวเสนอต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาแนวทางดำเนินการต่ออย่างเร่งด่วนแล้วนั้น

ทางเครือข่ายฯ ได้ติดตามการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ในการประชุมสภาที่ผ่านมา มีพรรคการเมืองหลายพรรค อภิปรายถึงแนวทางการจัดสรรงบประมาณใหม่ที่เน้นลดขนาดงบประมาณด้านโครงสร้างในระบบราชการ

การอภิปรายชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงของงบประมาณ ในส่วนของสวัสดิการ ทั้งสวัสดิการข้าราชการ และสวัสดิการของประชาชน ซึ่งชัดเจนว่า ยังมีความเหลือมล้ำในการจัดสรรงบงบประมาณ การผลักดันให้เกิดบำนาญถ้วนหน้าเป็นการสร้างความเท่าเทียมที่เป็นรูปธรรมที่สุดแล้ว

ทั้งนี้ เครือข่ายฯ ขอยืนยันและสนับสนุนการอภิปรายงบประมาณของพรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล ที่มีความชัดเจนและเปิดเผยข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงของงบประมาณด้านสวัสดิการของประเทศ และขอให้ดำเนินการผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมต่อไป รวมทั้งขอเป็นกำลังใจให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคน ทุกพรรค ที่พยายามให้มีการทบทวนการใช้งบประมาณเพื่อลดความเหลือมล้ำ สร้างความเป็นธรรมให้กับประชาชนทุกคน

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกกำลังใจ ข้อท้วงติง และข้อแนะนำจากทุกฝ่าย ซึ่งจะขอนำไปปรับเพื่อให้เกิดการผลักดันนโยบายและแนวทางการดำเนินงานในอนาคต ขอยืนยันว่า ตนจะเป็นนักการเมืองที่ดูแลพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงวัยในยามวิกฤต ซึ่งต้องเริ่มต้นจากการจัดสรรงบประมาณให้มีความเหมาะสม

และไม่สามารถแก้ไขได้ภายใน 1 ปี หรือ 2 ปี แต่ต้องมีการวางแผนดำเนินการในระยะยาวเพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัยในอนาคต ทั้งนี้ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าตนมีความตั้งใจที่จะดูแลผู้สูงอายุทุกคน และทุกที่ในประเทศไทยให้ได้รับสวัสดิการที่เหมาะสม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง