บทวิเคราะห์ : พรรคภูมิใจไทยหลัง “ปลดล็อก” กัญชา

การเมือง
9 มิ.ย. 65
15:44
390
Logo Thai PBS
บทวิเคราะห์ : พรรคภูมิใจไทยหลัง “ปลดล็อก” กัญชา
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

นับจาก 9 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป การปลดล็อกกัญชาจากยาเสพติดประเภท 5 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ก็จะมีผลทำให้ “กัญชา” ไม่จัดเป็นยาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติดอีกต่อไป

แต่ต้องปฏิบัติตามประกาศ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ระหว่างนี้ต้องรอลุ้นร่างกฎหมายกัญชง กัญชา ที่เพิ่งจะผ่านวาระรับหลักการจากที่ประชุมสภาผู้แทนฯ เพื่อออกมารองรับว่าสามารถทำอะไรได้-ไม่ได้บ้าง

การปลดล็อกกัญชาครั้งนี้ ยังมีความหมายถึง นโยบายกัญชาเสรีปลูกได้ครอบครัวละ 6 ต้นของพรรคภูมิใจไทย ที่เป็นจุดเด่นสำคัญในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งส.ส.เดือนมีนาคม 2562 ได้บรรลุผลสำเร็จแล้ว

พรรคภูมิใจไทยสามารถนำผลงานเรื่องนี้ ไปใช้เคลมในการหาเสียง และนับถอยหลังสู่การเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้าได้ เพราะเป็นพรรคใหญ่หนึ่งเดียว ที่ชูจุดขายกัญชาเสรีในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

กระทั่งมีส่วนทำให้พรรคได้ส.ส.จากการเลือกตั้งเดือนมี.ค.2562 มากถึง 51 คน เทียบกับการเลือกตั้งที่พรรคส่งผู้สมัครครั้งแรกเมื่อปี 2554 ที่ได้ส.ส.เพียง 34 คน

การเลือกตั้งส.ส.ปี 2562 ยังถือเป็นช่วง “เวลาทอง” ของพรรค เพราะนอกจากนโยบายจะโดนใจคนจากเรื่องกัญชาเสรีแล้ว หลังจากนั้นมาแม้จะยังไม่มีการเลือกตั้งส.ส.อีกเลย หรือที่มีเฉพาะเลือกตั้งซ่อมส.ส.บางเขตเลือกตั้ง พรรคไม่เคยส่งผู้สมัครแข่งเลย

แต่ถึงปัจจุบัน พรรคภูมิใจไทย กลับมี ส.ส.มากถึง 65 เสียง ยังไม่นับ ส.ส.ฝากเลี้ยง หรือ ส.ส.งูเห่า รวมทั้งส.ส.ที่ตัวยังอยู่พรรคเดิม แต่ใจย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทยก่อนหน้าแล้ว อีกไม่ต่ำกว่า 10-15 เสียง

พรรคภูมิใจไทยได้รับการออกแบบ และวางโครงสร้างฐานรากของพรรคให้มั่นคงแข็งแรง เหมือนการก่อสร้างอาคารหรือคอมเพล็กซ์ โดย นายชวรัฐ ชาญวีรกูล ผู้ก่อตั้งบริษัท ซิโน-ไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มยักษ์ใหญ่ธูรกิจก่อสร้างของประเทศไทย

นายชวรัฐ บิดาของนายอนุทิน หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านการเมืองและคอนเน็คชั่นด้านเศรษฐกิจ เห็นได้ชัดจากคว้างานโครงการใหญ่ ๆ รวมทั้งโครงการก่อสร้างสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ มูลค่า 12,260 ล้านบาท เมื่อ 30 ปีก่อน ได้วางพันธกิจ และจังหวะก้าวย่างของพรรค

ร่วมกับคนดังตระกูล “ชิดชอบ” หลังพรรคพลังประชาชน ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบ ก่อนจะสละเรือไปตั้งพรรคใหม่ โดยมีเมืองหลวงอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์

ในการเลือกตั้งปี 2554 เปิดนโยบายประชานิยมสู้กับต้นตำหรับพรรคเพื่อไทย ที่สืบเนื่องมาจากพรรคไทยรักไทย แต่ไม่ประสบความสำเร็จ และตกไปเป็นฝ่ายค้านในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่หลังจากซุ่มสรุปบทเรียนและเสริมสร้างคอนเน็คชั่นจนเข้มแข็ง ในรัฐบาลนายอภิทธิ์ เวชชาชีวะ สามารถเจรจากระทั่งยึดเก้าอี้รัฐมนตรีสำคัญไว้ ทั้งมหาดไทย คมนาคม และพาณิชย์

หลังเลือกตั้งปี 2562 พรรคภูมิใจไทยประกาศจับมือเป็นพันธมิตรแนบแน่นกับพรรคประชาธิปัตย์ รวมกันประมาณ 100 เสียง ด้วยรู้ดีว่า ไม่ว่าจะปีกพรรคพลังประชารัฐที่ชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ หรือปีกอำนาจเก่าพรรคเพื่อไทย ใครหวังจัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องเอาพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมด้วย และจะทำให้มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร

แม้ช่วงรณรงค์เลือกตั้งเดือนมี.ค.2562 หรือแม้แต่หลังเลือกตั้ง ผลโพลบางสำนักเสียงสนับสนุนนายอนุทินเหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี จะสูสีกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่เจ้าตัวไม่ได้แสดงท่าทีจะแข่งขันชิงดีชิงเด่นด้วย

รวมทั้งเมื่อร่วมกันตั้งรัฐบาลสำเร็จ ทั้งไม่เคยมีปัญหาเรื่อง “คลื่นใต้น้ำ”เหมือนพรรคประชาธิปัตย์ แม้ในช่วงเวลามีปัญหา องค์ประชุมสภาไม่ครบหลายครั้งต่อเนื่องกัน ในปี 2564 คนที่สร้างความฮึกเหิมและความมั่นใจให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ คือหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ได้ยื่นโพยรายชื่อส.ส.รวม 160 คนให้ผู้นำรัฐบาลสู้ต่อไปจนครบเทอม

ระหว่างที่ทำตัวเป็นเด็กดีของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ นายอนุทิน และพรรคภูมิใจไทย ได้ซุ่มจัดกิจกรรมให้ความรู้และเผยแพร่นโยบายปลูกกัญชาเสรี ซึ่งไม่เพียงแค่ครอบครัวละ 6 ต้น เหมือนตอนหาเสียงปี 2562 ยังปลูกได้ไม่จำกัด

แต่ต้องปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมาย ในหลายพื้นที่ของไทย ทั้งย้ำว่า มูลค่าตลาดกัญชาของโลกในปี 2567 จะมีมากถึง 3.5 ล้านล้านบาท เทียบกับตลาดกัญชาที่ใช้ในทางการแพทย์ในประเทศไทยปี 2564 มีเพียง 7.2 พันล้าน เท่ากับยังมีโอกาสอีกมากในตลาดกัญชาโลก

ขณะที่พรรคการเมืองอื่น ต่างจัดกิจกรรมเปิดตัว หาสมาชิก และทาบทามหาคนลงสมัคร ส.ส. แต่พรรคภูมิใจไทย กลับแทบไม่มีจัดกิจกรรมดังกล่าวเลย แต่แปลกที่มีนักการเมือง ทั้งส.ส.ปัจจุบัน อดีต ส.ส. และคนหน้าใหม่ที่อยากเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ส.ส. กลับหลั่งไหลไปหาพรรคภูมิใจไทยแบบหัวบันไดไม่แห้ง

จะด้วยปัจจัยตรงจริตนักการเมืองทั่วไป ที่อยากจะได้เป็นส.ส.และอยู่ในซีกรัฐบาล เพราะมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยจะถูกดึงเข้าครม.อีกแน่นอน หรือด้วยเพราะมีบุคคลิก “ใจถึงพึ่งได้” ของหัวหน้าพรรคก็ตามที แต่ถือเป็นความแตกต่างจากพรรคอื่น ๆ ของพรรคภูมิใจไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง