จากกรณีเหตุระทึก "หนุ่มเก็บของเก่า" คลุ้มคลั่งถือระเบิด พร้อมจับหญิงสาวเป็นตัวประกัน บริเวณซอยชุมชนเทพารักษ์ 4 ถ.หลังศูนย์ราชการ เขตเทศบาลนครขอนแก่น ภาพปฏิบัติการที่ออกมาได้รับความสนใจจากสื่อสังคมออนไลน์อย่างมาก โดยเฉพาะการใช้รถบังคับสีดำคันเล็กในภารกิจครั้งนี้
ไทยพีบีเอสออนไลน์สัมภาษณ์ พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ภารกิจผู้ก่อเหตุถือระเบิดจับตัวประกันที่ จ.ขอนแก่น เมื่อวานนี้ หลังประเมินสถานการณ์โดยใช้กล้องติด "รถโรบอต" ซูมเข้าไปพบว่า ผู้ก่อเหตุถือระเบิด M61 อยู่ และนิ้วมืออยู่ในกระเดื่อง ซึ่งหากถอดสลักออก ระเบิดก็พร้อมทำงาน จึงประเมินว่าเป็นสถานการณ์ที่อันตรายต่อประชาชนและเจ้าหน้าที่

ภาพ : ตำรวจภูธรภาค 4
ภาพ : ตำรวจภูธรภาค 4
ภารกิจในครั้งนี้ จึงนับว่าเหมาะสำหรับการใช้รถโรบอต โดยมีการวางกลยุทธ์ ให้รถโรบอตนำน้ำไปให้ผู้ก่อเหตุ ขณะนั้นผู้ก่อเหตุไม่ได้เอาไปเพียงแค่น้ำเท่านั้น แต่ยังนำรถโรบอตไปด้วย และได้พูดคุยกับรถอยู่นาน เจ้าหน้าที่ใช้ระบบที่ติดตั้งกับรถรับฟังผู้ก่อเหตุผ่านวิทยุสื่อสาร
หลังจากเจรจากันสักระยะ วินาทีนั้น ตำรวจติดต่อตัวประกันทางโทรศัพท์ได้เพื่อสื่อสารและวางแผนให้ตัวประกันหลบหนีออกมา กระทั่งตัวประกันวิ่งหนีออกมา เจ้าหน้าที่ทุกนายระดมกำลังช่วยกันปฏิบัติการตามยุทธวิธีจนภารกิจสำเร็จ
นับว่ารถโรบอตเป็นเครื่องมือสำคัญที่สนับสนุนเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยได้เป็นอย่างดี จนสามารถช่วยเหลือตัวประกันไว้ได้ ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้มีการสนับสนุนการพัฒนาอุปกรณ์เทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อใช้ปฏิบัติภารกิจมาโดยตลอด
"ผู้กองหมูแฮม" ผู้ประดิษฐ์รถโรบอต ติดตั้งระบบช่วยภารกิจ
ขณะที่ ร.ต.อ.รณเดช เตชะเกรียงไกร หน่วยวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ สังกัดสืบสวนภาค 4 เปิดเผยกับไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า หุ่นยนต์ที่ใช้ในปฏิบัติการครั้งนี้ คือ "Tactical robot" หรือเรียกง่าย ๆ ว่า "รถโรบอต" ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเองจากการศึกษาข้อมูลของต่างประเทศ
รถโรบอตนี้มีการดัดแปลงมาจากรถไฟฟ้าบังคับของเด็กซึ่งได้ย่อส่วนลงมา พร้อมกับการติดตั้งระบบกล้อง 2 ตัว ด้านล่างเป็นกล้องคนบังคับ ส่วนด้านบนเป็นกล้องโดม CCTV

ภาพ : ตำรวจภูธรภาค 4
ภาพ : ตำรวจภูธรภาค 4
นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งระบบมองกลางคืน ไฟสปอร์ตไลต์ อุปกรณ์ส่งของ และระบบสื่อสาร ที่สามารถสื่อสารได้ผ่านทั้งวิทยุสื่อสารและโทรผ่านอินเทอร์เน็ตโดยทั้งหมดนี้ใช้งบฯ เพียง 4,000 บาทเท่านั้น
ผมศึกษาข้อมูลมาต่อเนื่อง ก่อนจะเริ่มประดิษฐ์กับคนในทีม ใช้เวลาประมาณ 2 เดือนก็เสร็จ เอาไปใช้ปฏิบัติภารกิจได้
ด้วยคุณสมบัติที่เพียบพร้อม ประกอบกับรูปร่างที่ถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็กประมาณยาว 25 นิ้ว กว้าง15 นิ้ว สูง 10 นิ้ว เพื่อตอบสนองต่อการทำงานเชิงยุทธวิธี โดยเฉพาะการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง

ภาพ : ตำรวจภูธรภาค 4
ภาพ : ตำรวจภูธรภาค 4
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รถโรบอตได้ลงพื้นที่เป็นหน่วยสนับสนุนในปฏิบัติการจริง เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยผ่านภารกิจจับกุมชายคลุ้มคลั่งขู่ระเบิดถังแก๊สใน จ.ขอนแก่น มาแล้ว จึงนับว่าเป็นอีกตัวช่วยสำหรับการปฏิบัติภารกิจเชิงยุทธวิธีสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ผมชอบศึกษาเกี่ยวกับนวัตกรรมต่าง ๆ อยู่แล้ว เมื่อนำมาใช้จริงก็ทำให้ได้เห็นจุดอ่อนหรือข้อดีที่จะพัฒนาต่อไปได้ ดีใจและภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือประชาชนและสนับสนุนทีม
ร.ต.อ.รณเดช ทิ้งท้ายกับไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ในอนาคตทีมสืบสวนภาค 4 จะมีการพัฒนาและต่อยอดรถโรบอตและนวัตกรรมต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ ซึ่งขณะนี้ทีมสืบสวนภาค 4 มีรถโรบอต 2 คันแล้ว นอกจากคันที่ทุกคนเห็นกัน ยังมีรถโรบอตคันใหญ่ที่มีการติดตั้งแขนกลและปืนแรงดันสูง เพื่อปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ระเบิดอีกด้วย

ภาพ : ตำรวจภูธรภาค 4
ภาพ : ตำรวจภูธรภาค 4
ตำรวจขอนแก่นจับตาเคสคลุ้มคลั่ง
ขณะที่ พล.ต.ต.นพเก้า ยังเปิดเผยอีกว่า ช่วงที่ผ่านมามีสถิติในวงรอบที่มีการรายงานผู้ก่อเหตุในลักษณะที่เจ้าหน้าที่ต้องออกไประงับเหตุเกือบทุกวันซึ่งถือเป็นการแก้ปัญหาปลายทาง สำหรับต้นทาง คือ การนำผู้ก่อเหตุไปบำบัด แต่กลับพบปัญหาว่า หลังบำบัดรักษา เมื่อส่งตัวกลับบ้าน ส่วนใหญ่ผู้ก่อเหตุจะมาก่อเหตุอีก
ทั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค 4 ได้ทำโครงการสำรวจบุคคลวิกลจริตที่เกิดจากการใช้ยาใน จ.ขอนแก่น 2 ปี พบ 2,500 คน จึงได้จัดระดับความรุนแรงในการก่อเหตุโดยแบ่งเป็น 3 สี ได้แก่ สีเขียว อยู่ในความสงบ สีเหลือง เคยมีพฤติกรรมบ้าง และ สีแดง ก่อเหตุในลักษณะรุนแรง พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ อสม. และฝ่ายสาธารณสุขลงไปตรวจเยี่ยมและตรวจตราว่ามีลักษณะจะก่อเหตุพฤติกรรมรุนแรงหรือไม่ เพื่อแก้ปัญหาต้นทางต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ระทึก! คนเก็บของเก่าถือระเบิดจับหญิงสาวเป็นตัวประกัน
แท็กที่เกี่ยวข้อง: