"สุทิน" ชำแหละนโยบายกัญชาเสรี ชี้ ละเมิด "กติกาโลก-รธน.-มติสภาฯ"

การเมือง
19 ก.ค. 65
11:45
727
Logo Thai PBS
"สุทิน" ชำแหละนโยบายกัญชาเสรี ชี้ ละเมิด "กติกาโลก-รธน.-มติสภาฯ"
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"สุทิน"ชี้นโยบายกัญชาเสรีผิดกฎหมายหลายฉบับ ละเมิดกติกาโลก รัฐธรรมนูญ ทำเกินมติสภาฯ ชี้ปลดล็อกกัญชาเสรีก่อนมีกฎหมายควบคุมส่งผลกระทบหลายด้าน เชื่อ "อนุทิน" มีผลประโยชน์ทับซ้อน

วันนี้ (19 ก.ค.2565) นายสุทิน คลังแสง อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข อภิปรายถึงนโยบายกัญชาที่ละเมิดกฎหมายหลายฉบับ ทั้งละเมิดรัฐธรรมนูญ ละเมิดกติกาโลก และกฎหมายระหว่างประเทศ และละเลยไม่ออกมาตรการการควบคุมกัญชา สร้างความเสียหายต่อประชาชนและประเทศชาติ

นโยบายกัญชาละเมิดกฎหมายโลก-รธน.

นายสุทิน ยังระบุว่า ในปี 2561 การกระทำดังกล่าว ผิดอนุสัญญาว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ 1961 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพิธีสาร 1972 ซึ่งถือเป็นกฎหมายระหว่างประเทศ และทุกประเทศที่ลงสัตยาบันแล้วต้องไปปรับกฎหมายให้สอดคล้องกับกฎหมายดังกล่าว รวมถึงกัญชาเป็นหนึ่งในประเภทยาเสพติด

ต่อมาในปี 2021 องค์การสหประชาชาติ ได้มีการย้ายกัญชาจากยาเสพติดประเภทที่ 4 ไปประเภทที่ 1 โดยเป็นยาเสพติดร้ายแรงอนุโลมให้ใช้ในทางการแพทย์ โดยมีมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด

ต่อมาในปี 2563 รัฐบาลบาลและกระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศปลดกัญชาออกจากยาเสพติดประเภท 3 กัญชาไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไป

ต่อมาวันที่ 9 มิ.ย.2565 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข กัญชาเสรี ทั้งที่ยังไม่มีกฎหมายควบคุม และมต่อมามีการเสนอ พ.ร.บ.กัญชากัญชงผ่านวาระ 1 

นายสุทิน ยังกล่าวว่า อย่ามาโยนความผิดให้สภาฯ ขณะที่ พ.ร.บ.กัญชากัญชง ผ่านวาระที่ 1 เพราะสภาฯยกมือให้เพราะปลดล็อกไปแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรควบคุม สภาฯก็ต้องยกมือให้ โดยใน กมธ.ฯก็ให้บอกไปควบคุม อย่าให้ละเมิดกติกาโลก ละเมิดสภาฯ ตอนนี้เลยเถิดไปจนถึงการพาณิชย์และไปจนถึงการสันทนาการ ซึ่งมีการท้วงติงมาโดยตลอด ทั้ง เลขาฯ อย. และ รมว.ยุติธรรม 

นายสุทินยังกล่าวว่า กรณีดังกล่าว ต่อมานายอนุทินได้ออกมาชี้แจงโดยระบุว่า เรื่องกัญชาไม่เกี่ยวกับอนุสัญญาเดี่ยว และ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า เรื่องของอนุสัญญาเดี่ยวให้เอาไว้ก่อนให้นโยบายกัญชาผ่านไปก่อน

นายสุทินยังกล่าวว่า ขณะที่องค์การควบคุมยาเสพติดระหว่างประเทศ (INCB) ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมให้ประเทศต่าง ๆ ดำเนินการตามอนุสัญญาเดี่ยว ซึ่งจากการสอบถามนายวิโรจน์ สุ่มใหญ่ ประธาน INCB ซึ่งแจ้งว่า ที่รัฐบาลดำเนินการนั้นผิดอนุสัญญาเดี่ยวทุกข้อ ละเมิดยูเอ็น ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ละเมิดรัฐสภาซึ่งหากมีความผิดสำเร็จก็จะถูกเล่นงาน

ผมเชื่อว่าประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับนี้หากยื่นให้ศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญตีความเชื่อว่าจะเป็นโมฆะ รัฐสภาไม่ได้ให้ไปตีความกว้างขนาดนั้น ซึ่งเกินกว่าที่มติสภาที่ให้ไป

ต่างชาติเสรีกัญชาบางส่วนคุมเข้มงวด

นายสุทิน ยังกล่าวว่า ขณะที่ประเทศเนเธอร์แลนด์กัญชายังคงเป็นยาเสพติดจึงขออนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อทดแทนยาเสพติดประเภทอื่น โดยมีสถานที่และเงื่อนไขที่เคร่งครัด ซึ่งไม่ใช่เสรีและต้องรายงานไปยังยูเอ็นทุกปี ซึ่งมีโซนเดียวในกรุงอัมเตอร์ดัมเท่านั้น

ขณะที่อังกฤษและออสเตรเลียการปลูกขออนุมัติยูเอ็นในการปลูกอย่างเข้มงวด ไม่ได้ปล่อยเสรี และโดยการแพทย์เท่านั้น  รวมถึงการปล่อยเสรีกัญชายังละเมิด รัฐธรรมนูญมาตรา 66 ด้วย

หลายองค์การค้าน "กัญชาเสรี"

นายสุทิน ยังกล่าวว่า หลายองค์กรทั้งด้านสาธารณสุข องค์กรด้านศาสนา ต่างก็คัดค้านนโยบายกัญชา รวมถึงศาลก็ประกาศห้ามนำกัญชาเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าหลายฝ่ายมาศึกษาแล้วเห็นว่าโทษนั้นมากกว่า

ผมเชื่อว่าท่านอนุทินยอมเสี่ยงกับมาตรการของยูเอ็นที่จะแทรกแซง ก็อาจจะเพื่อสุขภาพของคนไทย ในทางการแพทย์แผนไทย และพืชเศรษฐกิจซึ่งจะสร้างรายได้ ผมมองว่าท่านเองมีเจตนาในการดันเรื่องนี้เพื่อเรื่องของสุขภาพ กัญชามาสู่แพทย์แผนไทยอันนี้ไม่ผิดแต่อาจคำนึงผลดี-ผลเสียไม่ดีพอ หรือ ในทางเศรษฐกิจก็คำนึงผลดี-ผลเสีย ไม่ดีพอ

ดังนั้น การที่ดันกัญชาเสรีโดยไม่คำนึงถึงยูเอ็นที่ให้เฉพาะการแพทย์เท่านั้น ซึ่งมีการสื่อสารให้กัญชามีประโยชน์ แต่กัญชาก็มีโทษเช่นกัน 

กัญชามีประโยชน์แต่ก็มีโทษสาร CBD มีประโยชน์ เช่นช่วยโรคชักเกร็ง แต่สาร THC มีอันตราย โทษทำลายสมอง ทำลายระบบประสาท การเรียนรู้ ความจำต่ำ การที่บอกว่ากัญชาเป็นยาวิเศษ มีคุณสารพัด ต้องบอกใหม่ว่า มีคุณอนันต์มีโทษมหันต์ ฉะนั้นจึงต้องควบคุม แต่เมื่อปลดล็อกไม่มีการควบคุม ไม่ให้ความรู้แก่ประชาชนดีพอ

 กฎหมายแต่อาจใช้ไม่ได้จริง

นายสุทินยังกล่าวว่า หากท่านบอกว่า แนวทางการป้องกันและควบคุม อยู่ระหว่างการออกกฎหมาย ขณะนี้อยู่ในวาระ 2 ซึ่งแม้จะออกกฎหมายออกมามีเครื่องมือแต่ไม่สามารถใช้ได้ เช่นเครื่องตรวจสาร CBD และ สาร THC ซึ่งต้องใช้เครื่องมือที่มราคาแพงประชาชนก็ไม่สามารถตรวจสารดังกล่าวได้ 

ปลูกกัญชาขายยาก - ต่างชาติยังไม่ยอมรับ

นายสุทินยังกล่าวว่า แต่ในด้านเศรษฐกิจผู้ที่ลงทุนปลูกกัญชา ก็อาจมีปัญหาในการขายเพราะหลายประเทศกัญชายังเป็นยาเสพติด โดย 10 ประเทศประกาศห้ามนำเข้าแล้ว หากส่งออกก็จะถูกจับทันที โดยในด้านอุตสาหกรรมทางยาสามารถขายได้ โดยยูเอ็นอนุญาต แต่มาตรา 23 ระบุว่า การจะแปรรูปรัฐภาคต้องมีองค์กรเฉพาะในภาคีตั้งขึ้นเพื่อพิจารณาอนุญาตให้ปลูกในระบบโซนนิ่ง และจำนวน และ GPS เพื่อรายงานต่อ INCB และจะมีการอนุญาตในการปลูกต่อไป

การจะขายแปรรูปเป็นยา การจะขายแบบลานมัน ลานอ้อยไม่ได้ จะต้องขายให้องค์กรนี้เท่านัั้น ทำนอกเหนือจากนี้ ซื้อขายกันเองไม่ได้ วันนี้เป็นเพราะสื่อสารผิดหรือไม่ ประชาชนตื่นตัวไปทำสภากัญชาจังหวัด ซึ่งการขายตามเงื่อนไขยูเอ็นไม่ง่าย และโลกยังรังเกียจกัญชา

ขณะที่จากการท่องเที่ยวที่หวังจะให้ฮับกัญชาช่วยนำรายได้เข้าประเทศนั้น หากวันนี้คิดจะนำกัญชาเป็นจุดขายก็จะได้คนสูบกัญชามาแต่ครอบครัว ผู้สูงอายุจะไม่มา ซึ่งอาจกระทบโฮมสเตย์ หรือ แบบครอบครัว หากยกตัวอย่างกรณีมาเก๊า ที่ขายกาสิโน ซึ่งไม่มีครอบครัวไปท่องเที่ยว

ขณะที่ผู้ที่จะมารักษาตัวเองด้วยกัญชาที่ไทยจะต้องทำกัญชาทางการแพทย์อย่างเดียว ด้วยการเป็นคลินิกกัญชา จากนั้นกำหนดพื้นที่ให้ชัดเจน ส่วนการนำกัญชาสันทนาการนั้นถือว่าผิด หากแยกแยะไม่ชัดเจน เรื่องการท่องเที่ยวต้องไปบวกลบคูณหารว่าคุ้มหรือไม่

นอกจากนี้ยังมีความน่าเป็นห่วงคือปัญหาสังคมที่จะตามมา ซึ่งขณะนี้พบว่ายังไม่มีประกาศและกฎหมายฉบับใดห้ามเสพ มีเพียงห้ามเสพในที่สาธารณะเท่านั้น และห้ามขายให้เด็กต่ำกว่า 20 ปี แต่ปลูกแล้วเสพเองได้หรือไม่ 

นายสุทินยังกล่าวว่า ท่านกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด นโยบายของท่านขัดกฎหมายโลก ท่านบอกรักษาโรคได้กัญชาไม่ใช่ยาเสพติด ซึ่งสารเสพติดยังมีอยู่ แต่ไม่มีกฎหมายเอาโทษ เสพวันนี้ก็ยังติด เสพTHC ก็ยังหัวทิ่ม 

ละเมิดกฎหมายโลก ละเมิดรัฐธรรมนูญไทย ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเกินเลยที่สภาฯอนุมัติ และภาวะสุญญากาศทางกฎหมาย และยูเอ็นจะมาเยี่ยมแน่นอน 

นายสุทินกล่าวว่า ท่านมีประโยชน์ทับซ้อนท่านจึงทำแบบนี้ เพราะท่านไปพูดกับประชาชนแล้วต้องทำ ในทางการเมือง ท่านอยากได้คะแนน นายกฯ ก็ทำเพื่อการเมือง อยากอยู่ต่อเท่านั้น จึงยอมทุกอย่าง ไม่คำนึงถึงประชาชน หรือเยาวชน หากไม่ให้ทำพรรคนี้ถอนตัวก็เจ๊ง  และมีนักการเมืองใหญ่ไปทำไร่กัญชาที่ประเทศลาวหมื่น หรือ แสนไร่ และวางระบบธุรกิจไว้หมด หลังวันที่ 9 มิ.ย. มีการวางขายทันที 

มีคนกระซิบว่า บ.ยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่นแอบมาตกลงกับนักการเมืองไทย ขอบอกแค่นี้ 

นายสุทิน ยังกล่าวว่า ถ้านายกฯไม่อนุญาต ไม่เห็นด้วย เรื่องนี้ไม่สำเร็จ เรื่องนี้โทษนายอนุทินอย่างเดียวไม่ได้ นายกฯต้องเอาด้วย และขอความเป็นธรรมให้วิสาหกิจชุมชน ซึ่งการปลูกให้มีสารครบถ้วนเข้มข้น ต้องปลูกในโรงเรือนปิด ดินต้องมีสเป็ก อากาศต้องได้ ซึ่งวิสาหกิจชุมชนจะไม่สามารถขายได้ เพราะปลูกไม่ได้ตามสเป็ก ซึ่งขายไม่ได้ก็ไม่ได้เป็นเศรษฐกิจครอบครัวอย่างแท้จริง การปลูกเอาไว้กิน ไว้รักษาโรค เอาไว้เสพ ซึ่งแตกต่างจากประเทศเนเธอร์แลนด์

หากจะกลับใจและทำเฉพาะเพียงการแพทย์ และ ให้กัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติดก็สามารถออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น 

ขณะนี้ก็พบว่า มีการแจกกล้ากัญชาไปปลูก ก็ขอฝากทุกท่านว่า ไม่ได้คัดค้านกัญชา แต่มันมีทางที่ทำได้ที่ไม่มีผลกระทบจากยูเอ็นทำได้โดยไม่ต้องปลดกัญชาจากบัญชียาเสพติดและขออนุญาตจากยูเอ็นทำเฉพาะการแพทย์และวิจัยและตั้งองค์กรควบคุม นักธุรกิจก็สามารถทำได้โดยดูปริมาณความต้องการของโลกที่แท้จริง

ขณะที่วิสาหกิจชุมชนหากจะดำเนินการต้องลงทุนสูงหลักหลายสิบล้านรัฐต้องเยียวยาและส่งเสริมอย่างอื่น หรือสนับสนุนการปลูกและควบคุมการใช้ทางการแพทย์โดย รพ.สต.

ผมจึงไม่ไว้วางใจเพราะกัญชาจะเตลิดไปมาก ขณะนี้ก็วิตกมากแล้ว และยังมีเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนอีก นายกฯมีความผิดเต็มประตูด้วย และจะดำเนินการอย่างไรต่อยูเอ็น ซึ่งเมื่อความผิดสำเร็จยูเอ็น ยูเอ็นจะส่งคนมาสำรวจและให้ไปชี้แจงและขึ้นประเทศไทยละเมิดกฎยูเอ็น และเสียสิทธิ์ทางยาและอาจไปถึงขั้นในการงดให้ความร่วมมือการปราบยาเสพติดของไทย หรือ อาจถึงขั้นขับออกจากภาคีซึ่งกระทบต่อเกียรติภูมิ แต่ยังมีผลเรื่องสุขภาพและเศรษฐกิจที่ควรคิดใหม่ คิดให้ครบถ้วน 

ไม่ได้คัดค้านกัญชา กัญชาเดินหน้าต่อไปได้ แต่ต้องเป็นกัญชาภายในกรอบการแพทย์การวิจัยแล้วไม่ขัดมติโลก แล้วนำสันทนาการและเสพออก ตั้งหลักก่อน อย่ารีบ ไม่ทันเลือกตั้งครั้งนี้ก็เลือกตั้งครั้งหน้า ศึกษาดี ๆ ให้ความรู้ ให้องค์กรของประเทศพร้อมที่รับมือ แล้วค่อยเดินหน้า อย่างนี้จะปลอดภัย แต่สายเสียแล้วผมไม่ไว้วางใจให้ท่านอนุทินและ พล.อ.ประยุทธ์ ให้บริหารประเทศต่อไป 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

"หมอชลน่าน" ย้ำซักฟอกจัดหนักวันแรกพุ่งเป้า "อนุทิน- ศักดิ์สยาม" 

“หมอชลน่าน” ชี้หมดเวลา "รัฐบาล 608" อมโรคป่วย-เลิกแบรนด์ประยุทธ์ 

"ประยุทธ์" โต้กลับ "หมอชลน่าน" ไม่ใช่คนทำให้เกิดความขัดแย้ง 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง