วันนี้ (14 ส.ค.2565) เขื่อนวังยาง ต.เกิ้ง อ.เมืองมหาสารคาม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพัฒนาลุ่มน้ำชีตอนกลาง ยกประตูระบายน้ำทั้ง 6 บาน เพื่อร่งระบายน้ำ หลังเกิดฝนตกในพื้นที่และมีน้ำเหนือไหลมาสมทบต่อเนื่อง ทำให้ระดับเพิ่มขึ้นวันละ 20 - 30 เซนติเมตร และเพื่อรับรองปริมาณน้ำฝนในช่วงวันที่ 15 - 19 ส.ค.ที่มีร่องมรสุมผัดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นอกจากนี้ยังได้แจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง เพราะอาจมีพายุลูกใหม่เข้ามาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ฝั่งแม่น้ำชี ที่เป็นพื้นที่ลุ่มควรเตรียมเก็บทรัพย์สินไว้บนที่สูง

ส่วนระดับแม่น้ำโขง ที่จุดวัดระดับน้ำบ้านพันลำ ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ ที่เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 10 เซนติเมตร อยู่ที่ 8.30 เมตร แต่ยังต่ำกว่าระดับตลิ่ง 5.70 เมตร ซึ่งเป็นระดับน้ำสูงสุดในรอบปี โดยระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้เรือหาปลาประมงพื้นบ้าน และเรือแพขนานยนต์ ที่บรรทุกสินค้าข้ามไป-มา ระหว่างประเทศไทยและลาวต้องเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
ลาวเเจ้งหลังเขื่อนน้ำอูเร่งระบายน้ำ
เช่นเดียวกับ จ.อุบลราชธานี แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ตามลุ่มแม่น้ำโขง ให้ระมัดระวังกับระดับน้ำที่สูงขึ้นหลัง อิทธิพลพายุมู่หลาน ทำให้เกิดฝนตกหนักบริเวณเหนือแขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านจากเขื่อนไซยะบุรี 9,000-10,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ท้ายเขื่อนมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น 1-2 เมตร ระหว่างวันที่ 14-18 ส.ค.

ขณะที่ประเทศลาว มีหนังสือแจ้งไปยังเมืองไชยะบุลี เมืองปากลาย เมืองแก่นท้าว ที่อยู่เหนือเขื่อน และท้ายเขื่อน ให้เฝ้าระวังน้ำขึ้นฉับพลันเนื่องจากน้ำจากเขื่อนน้ำอู 1-7 มีปริมาณมาก และกำลังปล่อยน้ำไหลลงสู่เขื่อนไซยะบุรี
นอกจากนี้ เขื่อนไชยะบุลีได้เพิ่มมาตรการฉุกเฉินรับมือกับสถานการณ์น้ำขึ้นเป็นระดับ 2 จึงมีความจำเป็นต้องปล่อยน้ำจากเขื่อนจึงแจ้งให้ผู้ที่อาศัยอยู่ริมน้ำและเรือแพต่างๆเฝ้าระวังน้ำขึ้นอย่างใกล้ชิด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เตือน 7 จังหวัดริมแม่น้ำโขง เฝ้าระวังน้ำเพิ่มฉับพลัน 14-18 ส.ค.
น้ำท่วมแม่สายเริ่มคลี่คลาย ชาวบ้านเก็บกวาด-สำรวจความเสียหาย