เปิดใจ "อนุรักษ์" แท็กซี่ใจดี ขับรถส่งพ่อแม่ลูกกลับบ้านอุดรฯ

สังคม
16 ส.ค. 65
11:49
8,340
Logo Thai PBS
เปิดใจ "อนุรักษ์" แท็กซี่ใจดี ขับรถส่งพ่อแม่ลูกกลับบ้านอุดรฯ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เปิดใจ "อนุรักษ์ นาคแกมทอง" คนขับแท็กซี่ใจดี ส่งพ่อแม่ลูกถูกไล่ออกจากห้องเช่ากลับบ้านอุดรฯ ระบุ ช่วยเหลือคนลำบากมาตลอด แม้จะไม่ได้ร่ำรวย แต่ทำตามกำลังตัวเองเท่าที่จะช่วยได้ และตั้งเป้าจะทำความดีไปตลอดชีวิต

จากกรณีโซเชียลชื่นชม แท็กซี่ใจดีอาสาไปส่งพ่อแม่ลูกกลับ จ.อุดรธานี ฟรี จากสถานีรถไฟหลักสี่ กทม. หลังถูกไล่ออกจากห้องเช่า

วันนี้ (16 ส.ค.2565) "อนุรักษ์ นาคแกมทอง" คนขับแท็กซี่ใจดี ให้สัมภาษณ์กับไทยพีบีเอสออนไลน์เล่าย้อนถึงวันที่ได้พบครอบครัวชาวอุดรธานีว่า หลังขับรถออกมารับผู้โดยสารตามปกติตั้งแต่เวลา 15.00 น. กระทั่งช่วงประมาณ 00.00 น. ขับมาถึงบริเวณ ถ.วิภาวดีรังสิต จึงตัดสินใจเข้าไปหาผู้โดยสารในสถานีรถไฟหลักสี่ และพบผู้ชายคนหนึ่งนั่งหน้าเศร้าอยู่กับผู้หญิงอีกคนที่ในมือกำลังอุ้มลูกอยู่

อนุรักษ์ เล่าว่า มองออกไปเห็นผู้ชายคนนั้นลุกขึ้นไปเรียกแท็กซี่คันข้างหน้าและพูดคุยกันอยู่นาน สุดท้ายก็ไม่ได้ขึ้นรถคันนั้นไป เมื่อถึงจังหวะที่พูดคุยได้ จึงได้เรียกทั้งครอบครัวขึ้นมาพูดคุยกันบนรถ

ทันทีที่เปิดประตูเข้ามานั่ง เสียงร้องไห้ของผู้หญิงก็ดังขึ้น สลับกับเสียงงอแงของลูกน้อย พร้อมกับคำบอกเล่าของผู้เป็นพ่อที่น้ำตาซึม บอกว่า ถูกไล่ออกมาจากห้องเช่า ไม่มีเงิน ไม่มีงาน เพราะปกติรับจ้างรายวันมีรายได้แค่พอเลี้ยงชีพเท่านั้น ตอนนี้ต้องการกลับบ้านที่ จ.อุดรธานี เพราะอยู่ที่กรุงเทพฯ ต่อไปไม่ไหว

อนุรักษ์ มองผ่านกระจกมองหลัง เห็นหน้าเด็กเล็กในอ้อมกอดของแม่ดูคล้ายกับไม่สบายจึงรู้สึกสงสาร และตัดสินใจว่าจะขับรถไปส่งทั้ง 3 คนให้ถึงบ้านโดยไม่คิดค่าโดยสารแม้แต่บาทเดียว

เงินในกระเป๋ามีอยู่พันกว่าบาท ผมคิดในใจว่าอย่างน้อยก็พอเติมแก๊สไป-กลับได้ ผมช่วยได้ก็ช่วยเลย กว่าจะรอองค์กรใหญ่ ๆ มาช่วย เขาจะผ่านวันนี้ไปได้อย่างไร ผมแจ้งข่าวเพื่อนแท็กซี่ไปก็มีโอนมาช่วยกันคนละ 50 บาท คนละ 100 บาท 


ในวันหยุดยาวการจราจรถนนมิตรภาพมุ่งหน้าภาคอีสานเต็มไปด้วยรถจนหนาแน่น การจราจรติดขัดตลอดเส้นทาง "อนุรักษ์" นอกจากจะแวะเติมเชื้อเพลิงสำหรับระยะทาง 446 กิโลเมตรแล้ว ยังแวะเติมพลังให้ทั้ง 3 คน พ่อแม่ลูกด้วย แม้ทั้งครอบครัวจะเกรงใจและไม่กล้ากินข้าวในตอนแรก แต่เขาก็เสนอว่า จะเลี้ยงและบอกให้กิน เพื่อเติมพลังให้มีแรงสู้ต่อไปได้

หลังจากไปส่งทั้งครอบครัวถึงบ้านที่ จ.อุดรธานี อย่างปลอดภัย "อนุรักษ์" ก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ ทันที เขาบอกด้วยเสียงสดใสว่า รู้สึกดีใจที่ได้ช่วยเหลือคนที่กำลังเดือดร้อนได้สำเร็จ แม้ว่าจะไม่ใช่คนที่ร่ำรวยอะไร แต่ยังมีแรงที่พอจะช่วยเหลือใครให้พ้นทุกข์ได้

"อนุรักษ์" ทิ้งท้ายกับไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า นี่ไม่ใช่การทำความดีครั้งแรกของเขา หลังจากลาออกจากอาชีพพนักงานขับรถในบริษัท มาอยู่หลังพวงมาลัยสวมเสื้อสีฟ้า ก็ได้ช่วยเหลือผู้คนมาอย่างต่อเนื่อง

บางคนเดินเข้ามาเพื่อขอความช่วยเหลือ ทั้งขอให้ไปส่งเพราะไม่มีเงิน หรือแม้แต่ผู้สูงอายุที่เป็นอัลไซเมอร์แล้วเดินหลงทางมา ก็ได้ติดต่อญาติแล้วไปส่งที่บ้านโดยไม่เก็บเงิน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เขาทำแล้วมีความสุข และพร้อมจะช่วยคนอื่น ๆ เท่าที่จะช่วยได้ไปตลอดชีวิต

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง