วันนี้ (30 ส.ค.65) ที่สโมสรตำรวจ กลุ่มผู้เสียหายจากการลงทุนซื้อสินค้าผ่านแอปพลิเคชันสมาร์ทพลัส และบริษัทที่ชักชวนในรูปแบบคล้ายกัน ได้ยื่นหลักฐาน ต่อพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เร่งรัดคดี เนื่องจากขณะนี้มีหมายจับผู้บริหารบริษัทแล้ว แต่ยังพบว่าผู้บริหารบางคนไปเปิดบริษัทใหม่ มีการโฆษณา ชักชวนให้มาลงทุนโครงการร้านสะดวกซื้อในแอปพลิเคชันต่าง ๆ
ผู้เสียหาย ระบุว่า มีการชักชวนให้ผู้เสียหายซื้อสินค้าทั่วไปแล้วได้สินค้า ต่อมาอีก 7 วัน ยังได้เงินค่าโปรโมตประชาสัมพันธ์สินค้าอีก เช่น ซื้อสินค้า 1 ชุด ราคา 1,200 บาท ครบ 7 วัน ผู้ซื้อจะได้เงินค่าโปรโมต 1,500 บาท กำไร 300 บาท ลงทุนมากได้มาก ทำให้เสียเงินเงินกว่า 10 ล้านบาท

อ้างชวนลงทุน-จ่ายผลตอบแทนสูง
นอกจากนี้ผู้เสียหาย ยังระบุอีกว่า ที่ผ่านมามีการเลื่อนจ่ายผลตอบแทนมาตลอด แต่ก็ยังเปิดดำเนินการซื้อขายสินค้ามาตลอด และหาสมาชิกใหม่ ๆ เข้ามาซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง
คาดว่ามีผู้เสียหายหลัก 1,000 คน ความเสียหายเกือบ 1,000 ล้านบาท จึงอยากให้ตรวจสอบว่า เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่
ขณะที่อดีตหนึ่งในพนักงานฝ่ายธุรการบริษัทที่ลาออกมาแล้ว ระบุว่า ถูกหลอกลวงให้เปิดบัญชีส่วนตัว มารับเงินลงทุนจากสมาชิก ช่วง 2 เดือนพบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 390 ล้านบาท

และถูกบงการให้โอนเงินให้กับสมาชิกที่ลงทุนซื้อสินค้า โดยมีหน้าที่โอนเงินให้ผู้บริหาร 3 คน อาทิตย์ละ 80,000-300,000 บาท ต่อมามีหมายเรียกจากสถานีตำรวจ 8 แห่ง กล่าวหาว่าเข้าข่ายฉ้อโกง และบางแห่งเรียกไปเป็นพยาน

พล.ต.ท.สรุเชษฐ์ รับเรื่องและขอดูรายละเอียด ข้อเท็จจริง หากเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ หลอกลวงประชาชน จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด และเตือนภัยประชาชนเรื่องการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนจำนวนมาก อาจเข้าข่ายถูกหลอกลวง