เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2565 สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และสมาคมผู้เลี้ยงสุกร ทั้ง 5 ภาค เรียกร้องให้รัฐบาลจริงจังแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน ที่เข้ามาแย่งตลาดผู้เลี้ยงหมูไทย ซึ่งขณะนี้ลักลอบนำเข้าจำนวนมาก กระทบต่อปริมาณผลผลิตหมูขุนในไตรมาส 4 ปีนี้ และอาจเกิดความเสียหายต่อการผลิตหมูทั้งระบบ
นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ระบุว่า เนื้อหมูและชิ้นส่วนหมูลักลอบเข้ามาในประเทศต่อเนื่อง และวางขายทำการตลาดอย่างเปิดเผย แต่การตรวจจับยังคงน้อยมาก เช่น ร้านหมูกะทะ หมูเกาหลีร้อยละ 80-90 ที่มีจัดราคาขายบุฟเฟ่ต์ต่ำมาก ตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็นหมูกล่อง ขณะที่ราคาหมูเนื้อแดงในประเทศยังราคาสูง ซึ่งปัจจุบันกลุ่มผู้กลับมาเลี้ยงใหม่ กำลังจะขุนใหม่กว่า 1,000,000 ตัว หากยังไม่แก้ปัญหาจะฟื้นตัวยาก
ขณะที่ นายนิพัฒน์ เนื้อนิ่ม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดราชบุรี ระบุว่า สมาคมฯตรวจสอบคาดว่ามีการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูผ่านตู้คอนเทนเนอร์ราว 1,000 ตู้ จึงอยากให้ภาครัฐเข้มงวดการตรวจจับตู้คอนเทนเนอร์ที่มีการสำแดงเท็จ รวมถึงอยากให้รัฐบาลตั้งข้อสังเกตจากการตั้งราคาขายเนื้อหมูที่ต่ำกว่าปกติ เพราะต้นทุนการผลิตหมูของผู้เลี้ยงสูงขึ้นมาราว 1,000 บาทต่อตัว ทำให้ต้องขายหน้าฟาร์มอยู่ที่ 90-100 บาทต่อกิโลกรัม ราคาหมูหน้าเขียงจะต้องอยู่ที่ 190-200 บาทต่อกิโลกรัม แต่หมูที่ลักลอบมาจะขายอยู่ที่ 130-135 บาทต่อกิโลกรัม
เข้มตรวจสอบ นำเข้า ส่งออก
ด้าน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการกรมปศุสัตว์เข้มงวดในการปฏิบัติงานตรวจสอบการนำเข้า ส่งออก และนำผ่านราชอาณาจักร โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนติดต่อกับเมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย มีเจ้าหน้าที่ชุดสุนัขดมกลิ่นปฏิบัติงานในพื้นที่สนามบิน เพื่อตรวจค้นหาซากสัตว์ (ซากสุกร) ซึ่งหากพบผู้กระทำผิด ต้องดำเนินการตามกฎหมายโดยเด็ดขาดและถึงที่สุดไม่ละเว้นให้กับผู้ใดทั้งสิ้น
ทั้งนี้ ปี 2565 ผลการปฏิบัติงานช่วงเดือน ม.ค. - ก.ค.2565 ดำเนินการตรวจสอบการลักลอบนำเข้าจำนวน 2,425 ครั้ง แจ้งความดำเนินคดี 13 คดี (ร่วมกับศุลกากร 3 คดี) ยึดและดำเนินการทำลายซากสุกร 325,027 กิโลกรัม มูลค่าของกลางกว่า 65 ล้านบาท
แท็กที่เกี่ยวข้อง: