กมธ.ป.ป.ช.หวังล้างบัญชีผี-ระบบอุปถัมภ์ เล็งสอบ 20 คนเกี่ยวข้องปม "ส.ต.ท.หญิง"

การเมือง
1 ก.ย. 65
08:06
1,619
Logo Thai PBS
กมธ.ป.ป.ช.หวังล้างบัญชีผี-ระบบอุปถัมภ์ เล็งสอบ 20 คนเกี่ยวข้องปม "ส.ต.ท.หญิง"
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กมธ.ป.ป.ช.หวังล้างระบบอุปถัมภ์ บัญชีผี และระบบทหารรับใช้ เล็งเรียกให้ข้อมูลผู้เกี่ยวข้องปมตั้ง "ส.ต.ท.หญิง" ทั้งหมด 20 คน

วันนี้ (1 ก.ย.2565) นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ ในรายการ "มุมการเมือง" ทางไทยพีบีเอส ถึงกรณีการตรวจสอบ ส.ต.ท.หญิง เป็นที่ปรึกษากรรมาธิการ โดยระบุว่า

การเปิดชื่อมา 3 ชื่อ พบความเชื่อมโยงอย่างไร ต้องการข้อมูลอะไร

ธีรัจชัย : เดิมเสนอชื่อในการเรียกมา 20 คน โดยไล่ทั้งระบบว่ามีอะไรบ้าง เช่น ประเด็นแต่งตั้ง ส.ต.ท.หญิง ไปช่วยราชการที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ว่า มีบุคคลใดเกี่ยวข้องในส่วนนี้บ้าง

ฝ่ายที่เป็นเอกสารก็จะเป็นกลุ่มหนึ่ง เช่น เอกสารการบรรจุจากกองบัญชาการกองทัพไทยก็อีกกลุ่ม ก็จะตรวจสอบบัญชีผี หรือ ก็คือ บัญชีที่มีชื่อแต่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่จริง รวมถึงการขอเอกสารจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และ สำนักงานวุฒิสภา ซึ่งจะมีบุคคลรวมเกือบ 20 คน

แต่ทั้ง 3 คนนี้เป็นหนึ่งในกรณีบุคคลที่คณะกรรมการธิการตรวจสอบเบื้องต้นว่าน่าจะเกี่ยวข้องในประเด็นนี้จึงเชิญตัวมาตรวจสอบ

ทาง กมธ.ป.ป.ช.ส่งหนังสือ เชิญมาให้คำชี้แจงหรือยัง

ธีรัจชัย : ขณะนี้ยังไม่ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังบุคคลเหล่านี้ โดยในการพิจารณาในประเด็นต่าง ๆ ของ กมธ.ป.ป.ช.นั้นมีหลายวาระ โดยเฉลี่ยวันละเกือบ 20 เรื่อง ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนึ่งในวาระที่ต้องตรวจสอบจึงต้องทยอยเรียกผู้เกี่ยวข้องให้มาชี้แจงครั้งละ 2-3 คนจนกว่าจะเสร็จ

ขณะนี้มีทั้งหมดราว 20 คน โดยมี 3 คนนี้รวมอยู่ โดยนัดแรกจะพูดคุยในวันที่ 8 ก.ย.นี้ โดยจะเชิญผู้เสียหาย เช่นนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ (กัน จอมพลัง) และ ส.ต.หญิงปัทมา ศิริรัตน์ เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงเบื้องต้นก่อน

ขณะที่ 3 ชื่อที่ปรากฏนี้ ได้ประสานพูดคุยกันมาก่อนหน้านี้แล้วหรือไม่

ธีรัจชัย : ยังไม่เคยพูดคุยกับทั้ง3 ท่าน แต่คณะทำงานตรวจสอบแล้วพบว่าข้อมูลที่ควรเชิญทั้ง 3 ท่านมาพูดคุย เนื่องจากตนเองนั้นรับผิดชอบเรื่องคดีของนายวรยุทธ์ อยู่วิทยา กรณีการปรับลดความเร็วรถที่กองพิสูจน์หลักฐานบอกว่า ใช้ความเร็วราว 147 กม./ ชม.ต่อมามีปรับเป็น 79.23 กม./ชม. และนำเสนอไปต่ออัยการสูงสุด และนำไปสู่การไม่ฟ้อง ซึ่งในส่วนนั้นมีรายชื่อที่ใกล้เคียงกัน จึงทราบภูมิหลังในความสัมพันธ์ว่ามีความอุปถัมภ์เกี่ยวข้องกันหรือไม่

กรณี ส.ว.ธานี จะเชิญมาสอบถามในเรื่องใด

ธีรัจชัย : หลังการแถลงข่าวของ กมธ.ป.ป.ช.เมื่อวานนี้ (31 ส.ค.65) และพรรคก้าวไกลนายธานี ได้มีการยอมรับว่า เคยมีในความสัมพันธ์แต่ขณะนี้ไม่มีแล้ว ก็ยอมรับแล้วจึงไม่ต้องพิสูจน์อะไรแล้ว เป็นเรื่องส่วนตัวท่าน

แต่ยังมีข้อที่สงสัยในหลายเรื่อง แม้ว่าหลายฝ่ายอาจพูดคลาดเคลื่อนกัน ซึ่งการมาให้ข้อมูลกับ กมธ.จะประกอบไปด้วยหลักฐานที่สามารถเชื่อมโยงและต่อจิ๊กซอว์ได้ชัดเจนขึ้น ทำให้ปฏิเสธได้ยาก และความจริงจะปรากฏถ้าทั้ง 3 ท่านนี้มา และจะเฉลยความคลางแคลงสงสัยของประชาชนได้ ทั้งนี้ต้องแยกใน 3 - 4 ประเด็น คือ

1.ความสัมพันธ์ และการทำร้ายร่างกาย โดยความสัมพันธ์ท่านรับไปแล้ว แต่ขณะนี้อ้างว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแล้ว เรื่องทำร้ายก็เป็นเรื่องของตำรวจ ก็ดำเนินการตามกระบวนการ

2.การใช้ระบบอุปถัมภ์ เส้นสาย ในการเข้ารับราชการ ในกรณี ส.ต.หญิง และ ส.ต.ท.หญิง ว่ามีระบบอุปถัมภ์หรือไม่ เนื่องจากเข้ารับราชการง่าย เป็นกรณีปกติหรือไม่ปกติ มีคุณวุฒิพิเศษหรือไม่

ทำไมคนเป็นลูกจ้างร้านกาแฟจึงเข้ามาเป็นทหารได้โดยง่าย อุปถัมภ์หรือไม่ ใครเกี่ยวข้อง ความสัมพันธ์ตั้งแต่ยุคไหนตั้งแต่ 60 มาจนถึงปัจจุบันหรือไม่ ซึ่งมีหลักฐานปรากฏ สามารถตรวจสอบได้

การให้การด้วยตัวบุคคลอาจตรงหรือไม่ตรงกับเอกสารก็ได้ ในทางกฎหมายถือเอกสารเป็นหลัก แต่การหาความจริงไม่ยาก เชื่อว่าแต่ละท่านในระดับ ส.ว.น่าจะเข้าใจในกระบวนการหาความจริงตรงนี้ ทางที่ดีควรมานั่งหาทางออกและรื้อโครงสร้างระบบอุปถัมภ์

อีกส่วนคือการทำลายบัญชีผี กรณีมีชื่อไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงภัย กอ.รม.น.ภาค 4 สน. แต่ไม่มีตัวไปทำงาน ซึ่งมีข่าวว่าอาจสูงถึงราว 30 -50 % ซึ่งเป็นเรื่องดำมืดที่ยังไม่มีใครตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ ซึ่งมีการใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่ไปใช้กับผู้ที่ไม่ได้ไปทำงานจริง

เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เป็นเรื่องที่เลวร้ายสำหรับกระบวนการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาภาคใต้ได้ ดังนั้นจึงต้องมาพิจารณาเพื่อแก้ระบบโครงสร้าง โดยกรณีนี้จะนำไปสู่การแก้ไขกรณีโครงสร้างที่ไม่ปกติ

รวมถึงกรณีทหารรับใช้ที่ปกติรับใช้นายทหารที่ต้องตรวจสอบ และนี่เป็นกรณีเฉพาะที่ไปรับใช้ตำรวจซึ่งผิดปกติมาก ซึ่งต้องตรวจสอบและหาทางแก้ไข  

การเปิดชื่อโดยมีคนในตระกูล "วงษ์สุวรรณ" ทาง กมธ.ฯอยากฟังคำชี้แจงอะไร

ธีรัจชัย : มีหลายเรื่องตั้งแต่อดีต ระบบอุปถัมภ์ ความเกี่ยวพันเชิงอำนาจซึ่งมีเบาะแส และเส้นทางของเอกสาร ที่สามารถตรวจสอบความจริงเมื่อท่านมาชี้แจงได้

โดยเฉพาะสายของความสนิทใกล้ชิด โดยตั้งแต่ยุค สนช. โดยนายธานี อ่อนละเอียด ซึ่งก็อยู่กับ พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ มาก่อน ซึ่งมีความเชื่อมโยงในความสัมพันธ์ ใครที่มีอำนาจสูง ใครที่เชื่อมโยงกับใคร อย่างไร

ใครที่จะมีส่วนเข้าไปในสายไหนบ้าง และนำไปสู่ระบบอุปถัมภ์หรือไม่ ก็จะเป็นเบาะแส ก็จะหาความจริงว่า จริงหรือไม่ ไม่ได้บอกว่าท่านใดผิด แต่มีเบาะแสก็จะหาความจริงให้ปรากฏ

ทั้งนี้ผู้เกี่ยวข้องจำนวน 20 คน ที่มีอาจจะโดยตำแหน่ง เช่น ผอ.สำนักกำลังพล ผอ.สำนักงบประมาณ สตช. ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล, ผอ. กอ.รมน.ภาค 4 สน. ทั้งเรื่องของการแต่งตั้งโยกย้ายและการใช้งบประมาณ 

รวมถึงกรณีให้เข้ารับราชการของ ส.ท.หญิง เช่น เจ้ากรมกำลังพลทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ผบ.โรงเรียนช่างทหาร เจ้ากรมการเงินทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ที่ต้องไปดูเส้นทางการเงิน ว่าเรียนอย่างไร เป็นสิ่งที่ต้องขยับและลงรายละเอียด มาตรฐาน คือ ต้องละเอียดมากและให้โอกาสในการชี้แจงเต็มที่ เพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฏทั้ง 2 ฝ่าย ไม่มีธงก่อน จะดำเนินการอย่างละเอียด

เคสนี้ชนกับผู้มีอำนาจ รู้สึกอย่างไร

ธีรัจชัย : ไม่เป็นไร ยินดีที่จะตรวจสอบ ไม่ได้มีสาเหตุโกรธเคือง หรือมีเรื่องอะไร เราทำเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง และถ้าไม่มีใครทำอะไรตรงนี้ มันก็จะเป็นแค่การแถลงข่าวและเป็นประเด็นทางการเมือง

ไม่ใช่เรื่องการเมืองแต่นี่เป็นเรื่องของบ้านเมือง เราต้องการแก้ไขในเชิงโครงสร้างของประเทศให้ระบบเส้นสายหมดไป ระบบใช้งบประมาณไม่ถูกต้องให้หมดไป และการทารุณกรรมจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก

ผมเชื่อในหลักการคนเท่ากัน สามารถเข้ารับราชการในระบบที่คนเท่ากัน สอบแข่งขันเท่ากัน ไม่มีเส้นสาย ระบบการทำงานต้องทำ ไม่ใช่มีบัญชีหลอก บัญชีผี งานจริง

ระบบการใช้งบประมาณที่เกณฑ์ผู้ที่เสียอนาคต 2 ปีไปเป็นทหารและรับใช้ตามบ้าน ก็ไม่ควรเกิดขึ้นอีกแล้ว ประเทศพัฒนาแล้วไม่ควรเกิดขึ้น ประชาชนไม่อยากให้เกิดขึ้น ในส่วนของตนเอง คณะ กมธ. และ ประธาน กมธ.ป.ป.ช.เห็นตรงกันว่าต้องออกหน้าชน และเชื่อว่าประชาชนจะเป็นผู้หนุนหลังเรา

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง  

กมธ.ป.ป.ช.เตรียมเชิญ "ธานี - พัชรวาท" ให้ข้อมูลปมฝาก "ส.ต.ท.หญิง" เป็นตำรวจ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง