วันนี้ (2 ก.ย.2565) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตำรวจตามจับ 2 ผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาปี 2558 ได้ทั้ง 2 คน ผู้ชายเป็นชาวเมียนมา ส่วนผู้หญิงเป็นชาวไทย โดยเป็นระดับสั่งการ
ตำรวจสืบสวนติดตามผู้ต้องหามาต่อเนื่อง หลังทราบว่าทั้ง 2 คน ได้หลบหนีไปอาศัยในมาเลเซีย กระทั่งได้รับข้อมูลจากทางการมาเลเซียว่าทั้ง 2 คน ได้เดินทางเข้ามาในไทย และพักอาศัยในโรงแรมแห่งหนึ่ง ชุดสืบสวน จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พบว่าทั้งคู่ได้เปลี่ยนชื่อ และเปลี่ยนสัญชาติเป็นมาเลเซีย
ทั้ง 2 คน ยอมรับเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนสัญชาติ เพื่อหลีกเลี่ยงการติดตามจับกุม ปัจจุบันทำธุรกิจทัวร์ แต่ยังลักลอบขนแรงงานชาวเมียนมาจากรัฐยะไข่ เข้ามาเลเซีย อย่างต่อเนื่อง

มาเลเซียช่วยติดตามผู้ต้องหาหนีคดี
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การสืบสวนครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากทางการมาเลเซียเป็นอย่างดี จึงรู้ความเคลื่อนไหวผู้ต้องหาในต่างแดน กระทั่งเดินทางกลับเข้าไทย จนจับกุมได้ซึ่งทั้ง 2 คน เป็นผู้ต้องหาคนสำคัญที่อยู่ในระดับสั่งการ และถูกออกหมายจับในความผิดฐานสมคบและร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปข้อหากระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์โดยกระทำต่อบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี
ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยผิดกฎหมาย ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขัง ผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และร่วมกันเรียกค่าไถ่ ความผิดฐานสมคบ โดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน

เร่งติดตามต้องหาหนีคดีอีก 26 คน
สำหรับคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา เกิดขึ้นในเดือนพ.ค.2558 ตำรวจ และทหาร พบศพผู้เสียชีวิตถูกฝังไว้รวมกัน 30 ศพ บริเวณแคมป์คนงานกลางป่าเขาแก้ว ในพื้นที่หมู่ 8 บ้านตะโล๊ะ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา
ผลการตรวจสอบพบว่าทั้งหมด เป็นชาวโรฮิงญา ที่ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักร และหลบซ่อนในแคมป์กลางป่าจุดเกิดเหตุ เพื่อรอส่งต่อไปยังประเทศที่ 3

ผลการสืบสวนสอบสวนทางคดี มีผู้ร่วมขบวนการทั้งทหาร ตำรวจ นักการเมืองท้องถิ่น และพลเรือนจำนวนมาก ออกหมายจับทั้งหมด 153 คน จับได้แล้ว 124 คน และอยู่ระหว่างสืบสวนติดตามอีก 26 คน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตม.จับ "โกต๊อก" ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา