มูลนิธิเมาไม่ขับ ชี้ ตร.ตัวแปรสำคัญ บังคับใช้กฎหมายใหม่ให้ได้ผล

สังคม
5 ก.ย. 65
10:20
427
Logo Thai PBS
มูลนิธิเมาไม่ขับ ชี้ ตร.ตัวแปรสำคัญ บังคับใช้กฎหมายใหม่ให้ได้ผล
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ชี้การแก้กฎหมายใหม่ช่วยลดอุบัติเหตุและเคสเมาแล้วขับได้เพียง 50% มองตำรวจเป็นตัวแปรสำคัญ หากบังคับใช้อย่างเข้มงวด กฎหมายใหม่จะได้ผลจริง

กฎหมายจราจรฉบับใหม่ เริ่มมีผลบังคับใช้วันนี้ (5 ก.ย.2565) เป็นวันแรก ข้อหาเมาแล้วขับทำผิดซ้ำ เพิ่มอัตราโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับ 50,000-100,000 บาท 

นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ให้สัมภาษณ์กับไทยพีบีเอสว่า การแก้กฎหมายนั้นนับเป็นเรื่องดีแต่เป็นเพียง 50% เท่านั้น ส่วนอีก 50% คือ การบังคับใช้ที่ต้องทำอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการเก็บสถิติเรื่องการกระทำผิดซ้ำ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีการดำเนินการมาก่อนจนทำให้กฎหมายไม่สำคัญ

ทั้งนี้ ข้อเสนอจากมูลนิธิเมาไม่ขับที่ไปชี้แจงต่อ กมธ.ทั้ง ส.ส. และ ส.ว. คือ การเรียกร้องให้มีการตรวจแอลกอฮอล์ทันที เมื่อมีอุบัติเหตุที่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต และหากผิดซ้ำต้องจำคุกทันที แต่กฎหมายกลับออกมากลาง ๆ จะตรวจหรือไม่ตรวจอยู่ที่ดุลยพินิจตำรวจ

กฎหมายนี้มีข้อดีคือ หากผู้ขับขี่ปฏิเสธไม่ยอมตรวจวัดแอลกอฮอล์ตำรวจสามารถแจ้งข้อหาเมาแล้วขับได้ทันที และส่งฟ้องศาลโดยไม่ต้องมีระดับแอลกอฮอล์ แต่หากตำรวจไม่ตรวจด้วยเหตุผลต่าง ๆ ก็จะกลายเป็นข้อเสีย

ทั้งนี้ เรื่องการลดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดนั้นมองว่าไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะที่ผ่านมา มีรายงานเรื่องผู้ต้องหาอุบัติเหตุชนผู้บาดเจ็บ ชนคนเสียชีวิตไม่วัดแอลกอฮอล์บ้าง หรือไปวัดในวันถัดไปบ้าง ซึ่งค่าก็ลดลงจนไม่เหลือแล้ว ดังนั้น หากจะทำให้กฎหมายเป็นผล การบังคับใช้อย่างจริงจังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

ถ้าเขาบังคับใช้กฎหมายได้ ก็จะลดอุบัติเหตุหรือเคสเมาแล้วขับได้ แต่ถ้าไม่ได้บังคับใช้ก็ไม่ช่วยอะไร

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง