วันนี้ (6 ก.ย.2565) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.ทบทวนมติเดิมเมื่อวันที่ 25 ม.ค.2537 ที่กำหนดให้โรงงานแปรรูปไม้ (โรงเลื่อย) เพื่อผลิตไม้แปรรูปหรือชิ้นไม้สับ รับแปรรูปเฉพาะไม้ที่ปลูกขึ้น 13 ชนิด ซึ่งเป็นไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ
ไม้ 13 ชนิดดังกล่าว ได้แก่ ยูคาลิปตัส สะเดาเทียม สนทะเล สนประดิพัทธ์ กระถินณรงค์ กระถินเทพา กระถินยักษ์ มะพร้าว มะขาม มะไฟบ้าน มะปรางบ้าน จามจุรี และไม้ตาล ซึ่งมติ ครม.ในครั้งนี้ เห็นชอบให้เพิ่มไม้ผลทุกชนิดเป็นวัตถุดิบป้อนโรงงานแปรรูปไม้ได้
อย่างไรก็ตาม ไม้ผลจะต้องปลูกในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดิน เช่น โฉนดที่ดิน หนังสือรับรอง การทำประโยชน์ แบบแจ้ง การครอบครองที่ดิน โดยหลักเกณฑ์เงื่อนไขในการอนุญาตและมาตรการตรวจสอบควบคุม ต้องเป็นไปตามที่คณะกรรมการพิจารณาอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้กำหนด
สำหรับความจำเป็นที่เพิ่มไม้ผลเป็นวัตถุดิบป้อนโรงงานแปรรูปไม้ในครั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันเกษตรกรไทยทำสวนผลไม้เพิ่มขึ้น แต่ละปีต้องมีการตัดแต่งกิ่งหรือตัดต้นไม้ที่มีอายุมากเป็นประจำ ซึ่งต้นไม้และเศษไม้เหล่านี้ สามารถนำมาผลิตเป็นไม้แปรรูปหรือชิ้นไม้สับได้ อีกทั้งยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ให้มีรายได้เพิ่มจากการขายไม้อีกด้วย