เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2565 สภาผู้แทนราษฎร ลงมติผ่านร่างกฎหมาย กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) แล้ว 314 ต่อ 3 และแม้เนื้อหาส่วนใหญ่จะเป็นไปตามที่กรรมาธิการวิสามัญฯ พิจารณา แต่ในมาตรา 17 เรื่องการคิดดอกเบี้ยเงินกู้ กยศ. ที่ประชุมกลับลงมติสวนทางออกไป
โดย 218 ต่อ 109 เสียง เลือกให้มาตรานี้บัญญัติตามที่ นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.จังหวัดลพบุรี พรรคเพื่อไทย เสนอแก้ โดยไม่ให้คิดดอกเบี้ยและคิดเบี้ยปรับล่าช้า
จากเดิมที่กรรมาธิการเสียงข้างมาก กำหนดให้คิดดอกเบี้ย 0.25% นอกจากนั้น ยังเห็นชอบ บทเฉพาะกาล "ให้ผู้กู้ยืมหรือผู้ค้ำประกันก่อนร่างกฎหมายฉบับนี้ งดเว้นการเก็บดอกเบี้ย และคิดค่าปรับ"
อ่านข่าวเพิ่ม มติสภาเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.กยศ.- วิปรัฐบาลย้ำดอกเบี้ยยังจำเป็นเพื่อรักษาสภาพคล่อง
"สาทิตย์" เตือนไม่เก็บดอกเบี้ยขาดเงินหมุนเวียน
ก่อนหน้านี้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ที่ประชุมของพรรค แสดงความวิตกว่า หากถือเอาความถูกใจอย่างเดียว แต่ลืมไปว่า กยศ. คือกองทุนหมุนเวียน ซึ่งจำเป็นต้องมีเงินหมุนเวียนเพื่อให้เด็กได้กู้ยืมต่อไปได้ ถ้ายกเลิกดอกเบี้ยไปแล้ว กองทุนนี้ก็จะไม่เป็นกองทุนหมุนเวียนอีกต่อไป จะเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด เพราะจะกระทบถึงงบประมาณ
จุดยืนของพรรคคือ ต้องให้กองทุนกยศ.เป็นกองทุนหมุนเวียนต่อไป ส่วนจะเก็บอัตราดอกเบี้ยจำนวนเท่าใด สามารถพูดคุยกันได้
ส่วนข้อกังวลเรื่องนโยบายประชานิยมที่สร้างภาระให้กับงบประมาณประเทศ นายสาทิตย์ ระบุว่า เรื่องนี้เป็นความวิตกกังวลของทุกพรรคการเมือง การกำหนดนโยบายในลักษณะใช้จ่ายงบประมาณมากขึ้น ก็จะเป็นภาระของประเทศ
สำหรับกองทุน กยศ. เริ่มต้นด้วยทุนประเดิมจากงบประมาณแผ่นดิน 3,000 พัล้านบาท เพื่อให้โอกาสกับเด็กที่ไม่มีเงินจ่ายค่าเล่าเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย อาชีวศึกษา ปริญญาตรี และดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันกว่า 27 ปี ปัจจุบันเป็นกองทุนหมุนเวียนที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งหมายถึงไม่ต้องใช้งบประมาณจากรัฐบาลตั้งแต่ปีการศึกษา 2561 เป็นต้นมา
อ่านข่าวเพิ่ม ดรามา #ล้างหนี้กยศ ยื่นกฎหมายให้รัฐฯ รับหนี้แทน
กองทุนกยศ.เหลือเงินเท่าไหร่-หนี้
จากการตรวจสอบข้อมูลสถานะกองทุน กยศ.ล่าสุด (30 มิ.ย.2565) มีจำนวนผู้กู้ยืมทั้งหมด 6,200,000 คน คิดเป็นเงินให้กู้ยืมเกือบ 700,000 ล้านบาท มีเงินหมุนเวียนจากการชำระคืนกว่า 30,000 ล้านบาทต่อปี
โดยมีผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างชำระหนี้จำนวนกว่า 3,400,000 คนคิดเป็นยอดหนี้คงเหลือกว่า 330,000 ล้านบาท
ในจำนวนผู้กู้ยืมกว่า 6,200,000 คน แบ่งเป็น 56% อยู่ระหว่างชำระหนี้ ส่วน 17% อยู่ในช่วงปลอดหนี้ (หลังเรียนจบยังไม่ต้องจ่าย 2 ปี) อีก 26% ชำระเสร็จสิ้นแล้ว และ 1% เสียชีวิตหรือทุพพลภาพ
ส่วนผู้กู้ที่ถูกบอกเลิกสัญญา และอยู่ในกระบวนการฟ้องร้องอยู่ที่ 1 ล้านคน คิดเป็นมูลหนี้ 120,000 ล้านบาท
ความน่าสนใจอยู่ที่ว่า การงดเว้นการเก็บดอกเบี้ย และคิดค่าปรับ จากร่างกฎหมายฉบับใหม่ ที่เพิ่งผ่านสภาฯ เป็นประโยชน์กับผู้กู้กว่า 3 ล้านคน ขณะเดียวกัน ก็ส่งผลกระทบต่อสถานะความเป็นกองทุนหมุนเวียนของ กยศ. ที่ปัจจุบันไม่ต้องพึ่งพางบของรัฐ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
นศ.ยื่นกู้แล้ว 5.9 แสนคน กยศ.ทุ่ม 2.7 หมื่นล้านรับเปิดเทอม