ในการเลือกตั้งครั้งหน้าที่ใกล้จะมาถึง จ.กระบี่ ซึ่งมีการเพิ่มที่นั่ง ส.ส.จาก 2 เป็น 3 คน จึงทำให้เป็นพื้นที่ที่น่าจับตาไม่น้อย
พรรคภูมิใจไทย ก็หวังกวาดที่นั่งทั้งหมด ด้วยการดึงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 7 สมัย มาเป็นแม่ทัพ พร้อมส่งหลานชายลงสู้ศึกครั้งนี้
เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ส่งทายาทตระกูลการเมือง ที่ครองที่นั่งในสภาเทศบาล ต่อเนื่องยาวนานกว่า 40 ปี
ขณะที่พรรคก้าวไกล หวังแบ่งที่นั่งในเขตเลือกตั้งที่ 1 เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคอนาคตใหม่เดิมมีคะแนนถึง 20,000 คะแนน
นายวศิน สิริเกียรติกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนหมู่บ้านชาวประมง ในเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.กระบี่ เพื่อเสนอทางเลือก แม้ทราบดีว่าตัวเองเป็นมวยรองไม่มีฐานเสียงทางการเมือง
แต่ผ่านประสบการณ์เป็นนักการทูต อาจารย์สอนพิเศษในมหาวิทยาลัย ล่าสุดยังเป็นที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช.และกรรมาธิการอีกหลายคณะ
จึงพร้อมเดินหน้าผลักดันนโยบาย ให้สอดคล้องกับพื้นที่ โดยเฉพาะปัญหาปาล์มน้ำมันตกต่ำ สวนทางกับราคาปุ๋ยที่สูงขึ้น หากได้รับเลือกตั้ง
การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ทำให้ว่าที่ผู้สมัครหลายคนรวมถึงนายธนวัช ภูเก้าล้วน จากพรรคประธิปัตย์ เร่งพื้นที่แนะนำตัวแม้จะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่
แต่ผ่านประสบการณ์เป็นนักธุรกิจเจ้าของหมู่บ้านจัดสรร ตั้งแต่ 21 ปี ที่สำคัญตระกูลภูเก้าล้วน ทั้งลุงและบิดาครองสนามเลือกตั้งเทศบาลเมืองกระบี่ ต่อเนื่องนานกว่า 40 ปี ทำให้นายธนวัช มั่นใจว่า จะนำพาพรรคประชาธิปัตย์ กลับมาครองที่นั่ง ในเขตเลือกตั้งที่ 1 อีกครั้ง
แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทย หวังกวาดที่นั่งในแถบจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน รวมถึง จ.กระบี่
หลังพรรคภูมิใจไทยเคยทำสำเร็จมาแล้ว โดยดึงนายกิตติ กิตติธรกุล เลขานุการ และเป็นหลานชายนายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ 7 สมัย ลงรับสมัคร ในเขตเลือกตั้งที่ 1 พร้อมประกาศให้นายสมศักดิ์ เป็นแม่ทัพในการกวาดที่นั่งทั้ง 3 เขต
นายกิตติ เดินหน้าหาเสียงชูผลงานของพรรค ที่สามารถผลักดันให้เกิดขึ้นในจังหวัด ตลอด 4 ปี ที่ผ่านมา
การเลือกตั้งที่ผ่านมา จ.กระบี่ มี ส.ส.เพียง 2 ที่นั่ง เขต 1 เป็นของนายสาคร เกี่ยวข้อง จากพรรคประชาธิปัตย์
ส่วนเขต 2 เป็นของนายสฤษฎ์พงษ์ เกี่ยวข้อง จากพรรคภูมิใจไทย น้องเขยนายสมศักดิ์ แต่การเลือกตั้งที่กำลังมีขึ้น จ.กระบี่ จะขยับมาเพิ่มเป็น 3 ที่นั่ง
สำหรับสนามเลือกตั้งที่ 1 ล้วนเป็นว่าที่ผู้สมัครหน้าใหม่ อย่างไรก็ตามทั้งพรรคประธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ต่างก็มีพี่เลี้ยง เพราะเกิดในตระกูลการเมืองที่ครองพื้นที่มายาวนาน
แต่สำหรับพรรคก้าวไกล หรือ อดีตพรรคอนาคตใหม่ เคยได้รับคะแนนในเขตเลือกตั้งนี้มากถึง 20,000 คะแนน
ส่วนเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น มีผู้ใช้สิทธิอายุระหว่าง 18- 35 ปี มากถึง 35,000คะแนน พรรคก้าวไกลคาดหวังจะได้รับคะแนนจากกลุ่มนี้ ร้อยละ 60 ส่วนกลุ่มอื่นจะถูกแบ่งกันไป