วันนี้ (19 ก.ย.2565) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อประชุมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนในการพัฒนาพื้นที่ โดยการลงพื้นที่วันนี้ พล.อ.ประวิตร ยิ้มแย้ม อารมณ์ดี และทักทายกับข้าราชการ และคณะผู้ประกอบการที่มาต้อนรับ
โดยเนื้อหาหลักในการลงพื้นที่ครั้งนี้ คือ การพัฒนาด่านพรมแดนทั้ง 9 ด่านใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะด่านพรมแดน 3 แห่งใน จ.นราธิวาส คือ ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างสะพานใหม่เชื่อมต่อรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย
ซึ่งในปี 2564 ไทยมีมูลค่าส่งออกสินค้าผ่านด่านนี้ ประมาณ 1,547 ล้านบาท และนำเข้า 1,463 ล้านบาท
ส่วนด่านพรมแดนบูเก๊ะตา อยู่ระหว่างการทำการประเมินราคาที่ดินเพื่อเวนคืนในการพัฒนาพื้นที่ 247 ไร่ เชื่อมต่อด่านตรวจคนเข้าเมือง และด่านศุลกากร
ขณะที่ด่านพรมแดนตากใบ มีแผนก่อสร้างแพขนาดยนต์ใหม่ แทนของเก่าที่ชำรุด มูลค่ากว่า 38 ล้านบาท โดยหลังการพัฒนาทั้ง 3 ด่าน จ.นราธิวาส คาดว่าจะมีมูลค่าการค้าและการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะหอการค้าจังหวัดยะลา ที่เสนอให้มีการพัฒนาเส้นทางคมนาคมสาย 410 เบตง-ยะลา ต่อเนื่อง หลังพบว่าการพัฒนาหยุดแค่ที่ จ.ยะลา ไปยัง อ.บังนังสตา แต่ยังไม่พัฒนาต่อไปยัง อ.เบตง
รวมถึงขอให้เจรจากับทางการมาเลเซีย เพื่อเชื่อมต่อระบบรางบัตเตอร์เวิร์ทในมาเลเซียมาถึงบริเวณด่านพรมแดนใน อ.เบตง เพื่อขยายความร่วมมือด่านการท่องเที่ยว และการค้าระหว่างกัน
สำหรับในการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประวิตร วันนี้ทาง จ.นราธิวาส ยังเสนอ อีก 11 โครงการให้รักษาการนายกรัฐมนตรีพิจารณา เช่น โครงการพัฒนาท่าอากาศยานนราธิวาส ให้เป็นท่าอากาศยานนานาชาติ
การขยายโครงสร้างพื้นฐานถนนเชื่อมนิคมอุตสาหกรรม การเสนอให้มีการตั้งโรงงานผลิตปุ๋ยชีวภาพคุณภาพดี และการติดตามผลกระทบการสร้างพนังกัดเซาะตลิ่งใน จ.นราธิวาส ระยะทาง 57 กิโลเมตร