วันนี้ (26 ก.ย.2565) นางทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า สปสช.เตรียมยกเลิกสัญญากับโรงพยาบาลเอกชน 9 แห่ง ตั้งแต่ 1 ต.ค.2565 เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะมีผู้มีสิทธิบัตรทองจากกรณีดังกล่าวได้รับผลกระทบประมาณ 220,000 คน ที่ สปสช.จะจัดหน่วยบริการปฐมภูมิให้ และอีกประมาณ 690,000 คน ต้องมีกลไกส่งต่อไปยังโรงพยาบาล
ทั้งนี้ การจะยกเลิกจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ม.ค.2566 โดยช่วง 1 ต.ค.- 31 ธ.ค.2565 ถือเป็นระยะเปลี่ยนผ่านที่ สปสช.จะช่วยพยุงไปก่อน หากผู้ป่วยประสงค์ใช้สิทธิกับโรงพยาบาลเดิมยังสามารถดำเนินการได้ โดย สปสช.ยังคงตามไปจ่ายให้ หลังจากนั้นให้เลือกใช้สิทธิกับโรงพยาบาลใหม่ได้
สำหรับผู้มีสิทธิบัตรทอง 220,000 คน จะมีศูนย์บริการสาธารณสุขซึ่งถือเป็นสถานพยาบาลปฐมภูมิที่มีมาตรฐาน 69 แห่งในพื้นที่ 50 เขต และมีศูนย์บริการฯ สาขาอีก 73 แห่ง ยังไม่รวมคลินิกอบอุ่นที่จดทะเบียนกับ สปสช. อีกกว่า 200 แห่งจะรองรับและช่วยดูแลไว้ทั้งหมด
นอกจากนี้ สปสช.จะเพิ่มคลินิกอบอุ่นและเพิ่มคลินิกเวชกรรมบางประเภท รวมถึงร้านขายยาอีกเกือบ 300 แห่ง หากดำเนินการได้จะมีหน่วยปฐมภูมิประมาณ 700 แห่งที่รองรับการให้บริการประชาชน และเตรียมจัดระบบบริการปฐมภูมิรูปแบบใหม่เพิ่มเติมเพื่อให้บริการ ได้แก่ ระบบบริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เพื่อเพิ่มทางเลือกกับให้กับประชาชน
ส่วนอีก 690,000 คน มีโรงพยาบาลในสังกัด กทม. 12 โรงพยาบาล ได้มีการแบ่งสัดส่วน 30% สำหรับสิทธิบัตรทอง โดย กทม.จะมีการขยายจำนวนเตียงเพิ่ม และร่วมมือกับเครือข่ายโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งจะมีเตียงเพียงพอที่จะรองรับและมีโรงพยาบาลใกล้บ้านมากขึ้นจากความร่วมมือของโรงพยาบาลทุกสังกัด