รายงานพิเศษ : จาก “โคราช” ถึง “หนองบัวลำภู” มีทั้งเหมือนและต่างกัน

อาชญากรรม
11 ต.ค. 65
13:49
2,505
Logo Thai PBS
รายงานพิเศษ : จาก “โคราช” ถึง “หนองบัวลำภู” มีทั้งเหมือนและต่างกัน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
“เพราะแทบจะไม่มีใครเกิดมาเพื่อเป็นอาชญากร” : ทุกคนมีโอกาสกระทำความรุนแรงได้ มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน มันไม่ได้หมายความว่า คนที่ทำต้องเป็นคนที่มีความผิดปกติ เพราะคนผิดปกติบางคนก็ไม่ได้ก้าวร้าว

ทุกครั้งเมื่อเกิดอาชญากรรมหมู่ซึ่งผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตจากการถูกสังหาร ส่วนใหญ่ไม่มีได้เป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง

เมื่อนับย้อนดูเหตุการณ์ฆาตกรรมหมู่ในไทย ในรอบกว่า 20 ปี มีเพียง 2 เหตุการณ์เท่านั้น ที่คนส่วนใหญ่ ยอมรับว่า เป็นคดีอาชญากรรมที่ก่อเหตุกับผู้บริสุทธิ์จำนวนมากในคราวเดียวกัน ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่คือเป้าหมายที่อ่อนแอและเป็นผู้บริสุทธิ์

ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563 (2020) “ฆาตกรรมหมู่โคราช” มีผู้เสียชีวิต 31 คน บาดเจ็บ 58 คน ผู้ก่อเหตุ 1 คน

ต้นเดือนตุลาคม 2565 (2022) “ฆาตกรรมหมู่ตำบลอุทัยสวรรค์” มีผู้เสียชีวิต 36 คน ผู้ก่อเหตุ 1 คน

ทั้ง 2 ครั้ง มีอะไรที่เหมือนหรือต่างกัน และการก่ออาชญากรรมหมู่ เรื่องที่มองข้ามไม่ได้ คือ อะไรเป็นแรงหลัก แรงกระตุ้น ไม่ใช่เพื่อให้เกิดการเลียนแบบ แต่เพื่อป้องกัน ยับยั้ง ช่วยเหลือบุคคลที่อาจมีความเสี่ยง หรือ เราจะช่วยกันลดภาวะความเสี่ยงแบบนี้อย่างไร

เหมือนกันและต่างกัน

1.ผู้ก่อเหตุกระทำผิดเพียงคนเดียวเหมือนกัน เป็นการก่อเหตุที่เรียกว่า “Loan wolf” ก่อเหตุทำความผิดเพียงคนเดียว และอาจมีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าผู้ก่อเหตุ คาดการณ์ไว้แล้วว่า ปลายทางของตัวเค้าจะมีจุดจบ หรือ ผลลัพธ์อย่างไร ความเสียหายต่อชีวิตบุคคลอื่น ๆ จึงมีจำนวนมาก

2.ผู้ก่อเหตุเป็น “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” เหมือนกัน เข้าถึงการใช้อาวุธ เคยฝึกฝนการใช้อาวุธ แม้ต่างกันในกรณีศึกษาหนองบัวลำภู ผู้ก่อเหตุจะถูกไล่ออกจากราชการแล้ว แต่ยังมีสิทธิการครอบครองอาวุธตามใบอนุญาต

ภูมิหลัง

1.ผู้ก่อเหตุ “หนองบัวลำภู” คำให้การจากเพื่อนสนิท สอบเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ เมื่อปี 2556 เรียนจบการศึกษาด้วยคะแนนดี จึงสามารถเลือกพื้นที่รับราชการได้ ผู้ก่อเหตุเริ่มต้นจากตำรวจสายตรวจ สน.ยานนาวา 2 ปี

จากนั้นย้ายไป ฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี อีก 2 ปี เป็นคนเก็บตัว โลกส่วนตัวสูง แต่ปฏิบัติงานได้ดี เรียนจบนิติศาสตร์ด้วยคะแนนเกียรตินิยม อันดับ 2 และขณะนั้นไม่พบพฤติกรรมเรื่องยาเสพติด

หลังจากทำงานเป็นฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี ได้ย้ายไป สภ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู ประมาณ 2 ปี และพบว่า มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป มีครอบครัวใหม่ มีภรรยาและลูก (ลูกติดภรรยา)

คำให้การจากเพื่อนร่วมงาน ที่ สภ.นาวัง : ผู้ก่อเหตุ เป็นคนก้าวร้าว เข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้ ถูกโดดเดี่ยว ช่วงแรกเป็นตำรวจสายตรวจ แต่ระยะหลัง ไม่มีเพื่อนร่วมงานอยากออกตรวจด้วย จึงให้ย้ายจากสายตรวจเป็นสิบเวร

แต่ก็ยังคงเป็นคนก้าวร้าว ไม่เคารพผู้บังคับบัญชา และพบว่า มีพฤติกรรมใช้สารเสพติด คำให้การเพื่อนบ้าน เค้าดูเป็นคนที่รักลูกมาก ดูแลลูกได้ดีเหมือนครอบครัวทั่ว ๆ ไป แม้ไม่ใช่ลูกของตัวเอง (ลูกติดภรรยา)

2.ผู้ก่อเหตุ “โคราช” คำให้การจากเพื่อนในวัยเด็ก เป็นคนค่อนข้างเก็บตัว รักแม่และครอบครัว มักจะกลับมาเยี่ยมแม่ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เป็นคนรักสัตว์ จิตใจดีมีน้ำใจ เป็นคนพูดจาดี แต่จะเลือกคบเพื่อน และมีความสามารถด้านการใช้อาวุธ โดยเฉพาะการใช้อาวุธปืนในระยะการยิงไกล

24 ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุ ไทม์ไลน์และแรงผลักดัน “หนองบัวลำภู”

1.“ผู้ก่อเหตุหนองบัวลำภู” ถูกดำเนินคดีเพราะครอบครองยาเสพติด บันทึกจากการสอบสวนระบุว่า มีพฤติกรรมที่เพื่อนบ้าน คนในหมู่บ้านร้องเรียนว่า มีอาการคล้ายเมาสารเสพติด บ่อยครั้ง มีพฤติกรรมแสดงความก้าวร้าวกับเพื่อนบ้าน และยิงปืนในที่สาธารณะ จนเพื่อนบ้านไม่มีใครอยากคบหาสมาคมด้วย มีสายลับแจ้งข้อมูล(เพื่อขอสินบนนำจับ) ว่า “แมน” เกี่ยวข้องยาเสพติด

2.20 ม.ค.2565 ตำรวจไปตรวจค้นที่บ้านพัก พบยาบ้า 1 เม็ดอยู่บนหลังตู้เย็น จึงถูกควบคุมตัวในข้อหาเสพ และส่งตัวเข้าสู่การพิจารณาคดีของศาล มีคำสั่งพักราชการเพื่อการสอบสวน

3.ระหว่างพักราชการ ไม่มีรายได้ “แมน” ไปรับจ้างตัดอ้อย รายได้เป็นรายวัน

4.วันที่ 15 มิ.ย.2565 บก.ภ.จว.หนองบัวลำภู มีคำสั่งไล่ออกจากราชการ เพราะครอบครองยาเสพติด จึงหมดโอกาสกลับไปรับราชการตำรวจ ตกงาน ขาดรายได้เลี้ยงครอบครัว ส่งผลต่อปัญหาภายในครอบครัว

มีคำให้การจาก ”แม่” ว่า คดียาเสพติด ได้ไปขอให้ นายก อบต.ช่วยเหลือ เรื่องรับรองประวัติการทำงาน เพราะเนื่องจากเป็นเพียงข้อหาเสพ และได้ขอให้ใครอีกหรือไม่ช่วยเหลือช่วยรับรองความประพฤติ แต่ถูกปฏิเสธ เพราะเป็นคดียาเสพติด

ไทม์ไลน์ "หนองบัวลำภู"

- ประมาณ 04:00 วันที่ 06 ต.ค.2565 คำให้การพยานรุ่งเช้าก่อนไปขึ้นศาลพิจารณาคดี ทะเลาะกับภรรยา

- 09:00 – 12:00 ไปขึ้นศาลพิจารณาคดี มีคำให้การจากพยานว่า จะต้องกลับไปขึ้นศาลอีกครั้ง ในวันที่ 7 ต.ค. พร้อมกับเอกสารที่จะรับรองความประพฤติเพื่อให้ได้รับการลดโทษ เพราะเป็นเพียงคดีเสพยาเสพติด ไม่ใช้ผู้ค้า จึงจะได้รับการส่งตัวไปบำบัดเหมือนกับผู้ป่วยทั่วไป ผู้เสพ = ผู้ป่วย (ไม่มีความผิด)

- 1 เดือน ก่อนก่อเหตุ : “ลูกของแมน” ไม่ได้ไปเรียนที่ ศูนย์ฯ เด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ คำให้การของครู บอกว่า หยุดเรียนไป ไม่มีใครทราบเหตุผล ทั้งที่ ๆ ก่อนหน้ามาเรียนเป็นปกติ และยังเคยไปรับนมจากโครงการนมโรงเรียน จนวันนี้ก็ไม่มีใครรู้ “ทำไมลูกแมน ถึงหยุดเรียน”

- ไทม์ไลน์ เส้นทางเกิดเหตุ เมื่อออกจากศาลหนองบัวลำภู “แมน” กลับไปบ้านพัก ไม่เจอลูกและภรรยา แต่หยิบปืน และมีดตัดอ้อย ออกมา ก่อเหตุจุดแรกกลางตลาดอุทัย หน้าศูนย์ฯเด็กเล็ก ในศูนย์ฯเด็กเล็ก ระหว่างกลางกลับไปบ้าน เพื่อนบ้าน และปลายทาง ลูกและภรรยา ในบ้านพัก

- “จักรพันธ์” ซื้อบ้านในโครงการสวัสดิการทหาร จำนวน 1,500,000 บาท เพื่ออนาคตจะได้พาแม่ และครอบครัว มาอยู่ด้วย โครงการซื้อบ้านมีผู้บังคับบัญชาเป็นคนกลาง และคนใกล้ชิดเป็นนายหน้า เงินกู้ซื้อบ้านโครงการมีส่วนเกินเพื่อเป็นค่าตบแต่งเกือบ 400,000 บาท

- 8 ก.พ.2563 “จักรพันธ์” นัดทุกคนเจราเพื่อคุยเรื่องเงินส่วนต่างจากการกู้ซื้อบ้าน เมื่อพูดคุยกัน นายหน้าเสนอขอจ่ายเงินชดใช้ให้ แต่ไม่มีเงิน เพราะใช้เงินหมดไปแล้ว และเงินส่วนต่าง ที่ “จักรพันธ์” คิดว่า มี 4 แสนบาท ลดลงเหลือ เพียง 50,000 บาท จึงก่อเหตุกับคนในบ้าน

จากนั้นไปชิงอาวุธสงคราม ออกมาจากคลังอาวุธกองพันสรรพาวุธ มีผู้เสียชีวิตที่คลังอาวุธ จากนั้นมุ่งไปทางวัดป่าศรัทธารวม เพราะตามหาภรรยาของผู้บังคับบัญชาซึ่งไปทำบุญที่วัด แต่ไม่เจอตัว และคิดว่า ภรรยาผู้บังคับบัญชาไปห้างฯ เทอร์มินอล 21 จึงเกิดความสูญเสียตามเส้นทางไปวัด และห้างสรรพสินค้า

ที่เหมือนกัน

- คนที่ 1 เค้าเป็นคนที่มีชีวิต พัง ๆ ล้มเหลว มาเกือบ 1 ปี หมดอนาคตจากอาชีพราชการ กำลังมีปัญหาครอบครัว ขาดรายได้ ตกงาน ถูกผลักออกจากสังคม เพื่อนร่วมงาน เพื่อนบ้าน นั่นอาจรวมถึงโรงเรียนด้วยหรือไม่

- คนที่ 2 เป็นไปได้หรือไม่ ที่เค้าอาจมีความเชื่อว่าถูกคนที่ไว้ใจ ล่อลวง ฉ้อโกง และส่งผลต่อการกดดันในการทำงานเพราะชนชั้นในอาชีพ ชีวิตกำลังจะพัง หมดเงิน อนาคตของครอบครัวพัง

- แบบแผนเส้นทางการฆาตกรรม เป็นไปได้หรือไม่ว่า ล้วนเกี่ยวกับคนที่เค้าเชื่อว่าใครบ้าง ที่ทำให้ชีวิต และพังลงไป

ป.ล.เราเรียนรู้อาชญากร คิดแบบอาชญากร เพื่อไม่ให้เราเป็นอาชญากร และช่วยกันยับยั้งก่อนคนที่เรารู้จัก กลายเป็นอาชญากร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง