คลิปวิดีโอจากเพจ "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" เปิดเเผยให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมในสถานที่แห่งหนึ่งท ซึ่งคล้ายกับผับจินหลิง ที่ยานนาวา ทั้งลวดลายพื้นพรม เพดานและผนัง
แต่ต่างกันที่เหตุการณ์ในคลิป เป็นชาวจีน นั่งล้อมโต้ะไพ่บาคารา จำนวนมาก ขณะที่ในคืนวันที่ตำรวจจู่โจมตรวจค้น บริเวณที่อาจเป็นจุดเดียวกันเห็นเพียงห้องโถงโล่งๆ ไม่มีโต๊ะพนัน
นายชูวิทย์ อ้างถึง ผู้อยู่เบื้องหลังสถานบันเทิง ในลักษณะให้ข้อเปรียบเทียบเป็น "ผับศูนย์เหรียญ" ว่า เป็นของนายทุนจีน เข้ามากระจายอยู่ในหลายพื้นที่ทั้ง สุทธิสาร รัชดา ห้วยขวาง สาทร พระราม 3 และเชื่อว่าอาจจะมีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็น และได้ผลประโยชน์จากธุรกิจด้วย พร้อมเสนอให้ตั้ง "ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมจีน" ผลการสืบสวนของตำรวจคดีสถานบันเทิง จินหลิง จะ
สอดคล้องกับข้อมูลนายชูวิทย์ หรือไม่ ต้องรอการเปิดเผยหลังขยายผลสอบสวน หรือ อาจจะมีเพียงการควบคุมดำเนินคดี ผู้ดูแลกิจการโดยไม่ปรากฎนายทุนที่อยู่เบื้องหลังก็เป็นได้
เมื่อพูดถึงกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวจีนในไทย ข้อมูลนายทุนที่มีความเกี่ยวข้องกับวงการทัวร์จีน มักปรากฎชื่อ “ ตู้ห่าว” หรือ อีกชื่อ “หาวเจ๋อ ตู้” ที่อาจเรียกได้ว่า เป็น 1 ใน 5 เสือ ของกลุ่มนักธุรกิจท่องเที่ยวจีนในไทย
อ่านข่าวเพิ่ม "ชูวิทย์" แฉผับศูนย์เหรียญทุนธุรกิจสีเทาจีนในไทย
“หาวเจ๋อ ตู้” หรือนายชัยณัฐร์ เบื้องหลังผับทุนจีน
เบื้องหลังของ นาย “หาวเจ๋อ ตู้” เป็นนายทุนมีกิจการทัวร์จีน กิจการร้านค้าจิวเวอรี ธุรกิจรังนก อสังหาริมทรัพย์ ที่นอนยางพารา และอีกหลายกิจการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจทัวร์ศูนย์เหรียญ ทั้งภูเก็ต พัทยา จ.ชลบุรี รวมถึงในกรุงเทพมหานคร
“หาวเจ๋อ ตู้” มีชื่อไทยว่านายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ ได้รับสัญชาติไทยหลังจดทะเบียนสมรสกับหญิงไทย ซึ่งเป็นตำรวจหญิง มีศักดิ์เป็นหลานอดีตนายตำรวจยศชั้นนายพล และเป็นนักการเมืองรัฐบาลในอดีต
อ่านข่าวเพิ่ม "สมศักดิ์" รับเสี่ยผับจีนยานนาวาบริจาคเงิน พปชร. 3 ล้าน
นายชัยณัฎฐ์ เคยชี้แจงผ่านสื่อเมื่อหลายปีก่อนว่า เป็นชาวจีน เดินทางมาทำงานที่ประเทศไทยเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน และยอมรับเรื่องการทำธุรกิจเปิดศูนย์แสดงสินค้าอัญมณี ธุรกิจที่นอนยางพารา สมุนไพร เพื่อจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวในภูเก็ต มีหุ้นส่วนเป็นคนไทย และยอมรับการเปิดกิจการที่มีชื่อว่า กั๋วลี่ กรุ๊ป จำกัด
นายชัยณัฎฐ์ เคยปรากฏเป็นข่าวในปี 2560 หลังถูกพาดพิงจากการร้องเรียนของผู้เสียหายเจ้าของกิจการสวนงู ในชื่อบริษัท เฮลตี้นูทรีเมนต์ จำกัด ซึ่งถูกวางเพลิงและ รปภ. ถูกรุมทำร้ายบาดเจ็บสาหัสจนพิการ
โดยเป็นธุรกิจคู่แข่งกับนายชัยณัฏร์ ซึ่งมีชื่อบริหาร บริษัทโมเดิร์นเจมส์ ภูเก็ต แต่คดีกดังกล่าว อัยการจังหวัดภูเก็ต ในขณะนั้น ใช้เวลาพิจารณาสำนวนคดีเพียงวันเดียว และมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาในคดีทั้งหมด
ส่วนข้อมูลที่มีความเชื่อมโยงกับพรรคการเมืองไทย พบว่านายชัยณัฐร์ มีชื่อตรงกับรายชื่อผู้บริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2564 จำนวนเงิน 3 ล้านบาท
ขณะที่ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตอบคำถาม เบื้องหลังนายทุนจีน ธุรกิจสถานบันเทิง บอกว่าตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบรถหรูกว่า 30 คัน ที่พบในสถานบันเทิง จินหลิง พบบางส่วนเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล และบางส่วนเป็นรถเช่า ที่มาส่งลูกค้าชาวจีน ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบสัญญา และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้มาแสดงตัว ขอรับรถคืน
ขณะเดียวกันการดำเนินคดีนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ถูกจับขณะนี้บางส่วนถูกส่งตัวฟ้องและฝากขังต่อศาลแขวงพระนครใต้ หลังรับสารภาพเสพยาเสพติด
และยังมีผู้ต้องหาอีก 30 คน ที่ปฏิเสธ ตำรวจจะสอบสวนและคาดว่าจะฝากขังได้ในวันพรุ่งนี้ (28 ต.ต.)
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผบก.น.6 สั่งย้าย "ผกก.สน.ยานนาวา" เซ่นตรวจผับเปิดเกินเวลา
จับผับย่านยานนาวาลอบเปิดให้บริการ รับทัวร์ปาร์ตี้เสพยา