"ไม่มี ไม่ใช่ ไม่ต้องกลัว" ปรากฏการณ์เพลงไต้หวันติดหูสะท้อน Soft Power ไทย

Logo Thai PBS
"ไม่มี ไม่ใช่ ไม่ต้องกลัว" ปรากฏการณ์เพลงไต้หวันติดหูสะท้อน Soft Power ไทย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กระแสเพลงของนักร้อง-นักแสดงชาวไต้หวันชื่อดัง "หลัว จื้อ เสียง" เพลงภาษาจีนไต้หวัน ที่มีความหมายและแปลได้แต่ออกเสียงคล้ายกับภาษาไทย ฮิตติดหูจนยอดวิวทะลุ 1 ล้าน หลายคนมองว่า นี่คือ Soft Power ที่จะทำให้ชาวไต้หวันและทั่วโลกรู้จักเมืองไทยมากขึ้น

กลายเป็นกระแสในสื่อสังคมออนไลน์ กับเพลง "ไม่ต้องกลัว" ผลงานของนักร้อง-นักแสดงชาวไต้หวัน "Show Lo" หรือ หลัว จื้อ เสียง ที่ฟังเผิน ๆ อาจนึกว่าเป็นเพลงไทย แต่แท้จริงแล้ว เป็นเพลงภาษาจีนไต้หวัน ที่มีความหมายและแปลได้ เพียงแต่ออกเสียงคล้ายกับภาษาไทย ทั้ง "ม่ายมี ม่ายไช่ ม่าย ตง กัว"

นับเป็นเป็นอีกครั้งที่ภาษาไทย ไปปรากฏอยู่ในเพลงต่างประเทศ โดยมีกลิ่นอายความไทย ที่พูดได้ว่า คนไทยร้องตามได้ไม่ยาก โดยเพลงนี้เพิ่งปล่อยครบ 1 สัปดาห์ในวันนี้พอดี แต่ยอดวิวเพิ่มขึ้นวันละหลายแสนครั้ง ล่าสุด ยอดวิวทะลุ 1 ล้านวิวแล้ว

ขณะที่เพจลุยจีน ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1.4 ล้านคน ได้โพสต์ถึงเรื่องนี้ด้วย โดยเขียนใจความว่า "ภาษาไทย โกอินเตอร์ละครับ อย่างชอบเลย... ช่วยด้วยหยุดร้องตามไม่ได้ ติดหูมาก ตัวเนื้อเพลง เล่นกับภาษาไทยหลายคำที่ออกเสียงคล้ายภาษาจีน แล้วคนจีนชอบเอามาพูดเล่น ๆ ว่า เวลาไปไทยให้ฝึกพูดคำไทยง่าย ๆ เหล่านี้เอาไว้"

ล่าสุด ศิลปินคนนี้ยังได้มาแสดงความคิดเห็นตอบแฟน ๆ ด้วยภาษาไทย โดยระบุว่า "ฉันชอบประเทศไทยมาก ฉันชอบอาหารและวัฒนธรรมของประเทศไทย ขอบคุณที่รักเพลงของฉัน ขอบคุณทุกคน"

สำหรับคำในภาษาจีนบางส่วนที่ปรากฏในเพลงนี้ เช่น "ม่าย หมี่" ซึ่งแปลว่า ซื้อข้าว โดยไปพ้องกับคำว่า ไม่มี ในภาษาไทย "ม่าย ไช่" แปลว่า ซื้อผัก ส่วนคำว่า ม่าย ตง กัว แปลว่า ซื้อฟัก นอกจากนี้ยังมีคำว่า "ซวา หว่อ ตี ข่า" ซึ่งแปลว่า รูดบัตร (เครดิต) ของฉัน พอพูดเร็ว ๆ ก็อาจคล้ายกับคำว่า สวัสดีค่ะในภาษาไทย

และนอกจากคำศัพท์ ที่มีเสียงคล้ายกับภาษาไทยแล้ว ใน MV ยังมีความเป็นไทยที่ปรากฏอยู่หลายอย่าง ทั้งชุดไทย รถตุ๊กตุ๊ก ตลาดนัดริมทาง ชานม น้ำมะพร้าว รวมทั้งบรรยากาศของงานวัด ที่หลายคนมองว่า นี่คือ Soft Power ที่จะทำให้ชาวไต้หวันและทั่วโลกรู้จักเมืองไทยมากขึ้น และอยากเดินทางมาเที่ยวไทย บางคนถึงขั้นแท็ก เฟซบุ๊กของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้เข้ามาชมคลิปนี้ด้วย

ไทยกับไต้หวัน มีนักท่องเที่ยวเดินทางระหว่างกันเป็นจำนวนมากในแต่ละปี แต่ในช่วงโควิด-19 ไต้หวันมีมาตรการเข้มงวด ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาไทยลดลงไปมาก โดยไต้หวันเพิ่งจะกลับมาเปิดพรมแดนอีกครั้ง เมื่อ 13 ต.ค.ที่ผ่านมานี้เอง

ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่าในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา มีชาวไต้หวันเดินทางเข้าไทยถึง 7,966 คน ตัวเลขนี้ถือว่าสูงมากหากเทียบกับการที่ในช่วงเวลาดังกล่าวไต้หวันยังคงมีมาตรการปิดพรมแดนเข้มข้นและต้องกักตัว ซึ่งถ้าเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วพบว่า เพิ่มขึ้นถึง 9,383% เพราะถ้าไปดูในกันยายนปี 2564 มีชาวไต้หวันเข้าไทยเพียงแค่ 84 คนเท่านั้น จากมาตรการควบคุมโควิด-19

ขณะที่ข้อมูลจากการออกบูธ ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่เมืองไถจง เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว พบว่า นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันที่มาไทย นิยมเดินทางมายัง กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ เกาะสมุย และหัวหิน โดยส่วนใหญ่ที่ตัดสินใจจองการเดินทางในระยะนี้ จะเป็นกลุ่มที่เดินทางมาเที่ยวซ้ำ กลุ่มพนักงานออฟฟิศ กลุ่มคนที่มีอายุ 26-38 ปี และกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการเล่นกอล์ฟ ซึ่งนับว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดให้มาท่องเที่ยวอยู่ไม่น้อย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง