สหรัฐฯ เลือกตั้งกลางเทอม "ไบเดน" ชี้มีประชาธิปไตยเป็นเดิมพัน

ต่างประเทศ
8 พ.ย. 65
07:58
246
Logo Thai PBS
สหรัฐฯ เลือกตั้งกลางเทอม "ไบเดน" ชี้มีประชาธิปไตยเป็นเดิมพัน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
จับตาสหรัฐฯ เลือกตั้งกลางเทอม 8 พ.ย.นี้ มีรายงานว่าชาวอเมริกันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าแล้วมากกว่า 40 ล้านคน ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ ระบุการเลือกตั้งครั้งนี้ชี้ชะตาประชาธิปไตย

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า วันนี้ (8 พ.ย.2565) ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ มีการจัดเลือกตั้งกลางเทอม เพื่อเลือก ส.ส. และ ส.ว. รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับรัฐอีกจำนวนมาก

ล่าสุด มีข้อมูลว่าชาวอเมริกันออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าแล้วมากกว่า 42 ล้านคน

การเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้จะส่งผลไปถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไปในปี 2024 ที่ชาวอเมริกันจะได้เลือกประธานาธิบดี เพราะเป็นเสมือนการชี้ชะตาอนาคตทางการเมืองของโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ จึงทำให้ทั้งคู่ทุ่มเทกำลังหาเสียงจนถึงโค้งสุดท้าย

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายในรัฐนิวยอร์ก พร้อมย้ำสโลแกนอีกครั้งว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะชี้ชะตาประชาธิปไตย โดยระบุว่า มีผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันในทุกระดับมากกว่า 300 คน ที่ปฏิเสธผลการเลือกตั้งครั้งก่อนในปี 2020 ทั้งๆ ที่ความพยายามในการคว่ำผลการเลือกตั้งดังกล่าวล้มเหลวมาไม่รู้กี่ร้อยครั้ง

ผู้นำสหรัฐฯ ยังเตือนถึงความพยายามของฝั่งรีพับลิกันในการคว่ำกฎหมายประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ Obama Care และยังให้คำมั่นจะคัดค้านความพยายามใดๆ ในการผ่านกฎหมายห้ามการยุติตั้งครรภ์ทั่วประเทศ หากรีพับลิกันได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ

"ทรัมป์" ส่งสัญญาณลงชิงเก้าอี้ผู้นำสมัยหน้า

ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขึ้นเวทีในรัฐฟลอริดา เรียกคะแนนเสียงให้ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐจากพรรครีพับลิกัน

อดีตผู้นำสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า เขาอาจจะต้องทำอย่างเดิมอีกครั้ง เพื่อช่วยให้ประเทศประสบความสำเร็จ ปลอดภัยและรุ่งเรืองได้ โดยขอให้ติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

การเลือกตั้งครั้งนี้ หากผลคะแนนที่ออกมาสะท้อนถึงความนิยมของชาวอเมริกันต่อพรรครีพับลิกัน ก็อาจเป็นอีกหนึ่งแรงผลักให้ทรัมป์ที่อาจประกาศลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี เป็นครั้งที่ 3 ในปี 2024 ได้

 

การเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024 หากผลออกมา เดโมแครตทำคะแนนได้ไม่ดี ก็จะทำให้การลงชิงเก้าอี้ผู้นำอีกสมัยของไบเดนดูไม่สมเหตุสมผลเท่าที่ควร เมื่อมาประกอบกับคะแนนนิยมที่ตกต่ำอยู่ก่อนแล้ว ขณะที่หากรีพับลิกันช่วงชิงเสียงข้างมากในสภาไปได้ ก็ยิ่งตอกย้ำถึงแรงสนับสนุนและเป็นแรงส่งให้ทรัมป์มุ่งสู่การลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอีกสมัย

นอกจากนี้ กรณีที่ผู้สมัครรีพับลิกันจำนวนมากปฏิเสธผลการเลือกตั้งครั้งก่อน และหากพวกเขาได้รับเลือกเข้าไปทำหน้าที่ในระดับรัฐ จึงเกิดความกังวลว่าอาจส่งผลต่อการเลือกตั้งครั้งหน้าที่พวกเขาจะมีบทบาทสำคัญในระดับท้องถิ่นเช่นกัน เป็นที่มาของคำกล่าวของไบเดนที่ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีประชาธิปไตยเป็นเดิมพัน

การสำรวจล่าสุดโดย CBS ประเมินว่า การเลือกตั้งครั้งนี้รีพับลิกันอาจได้เก้าอี้ ส.ส. 228 ที่นั่ง ส่วนเดโมแครตได้ 207 ที่นั่ง หรือหากคนหนุ่มสาวตื่นตัวออกมาเลือกตั้งจำนวนมาก ตัวเลขอาจจะคู่คี่สูสีกว่านั้น เช่น เดโมแครต 218 ที่นั่ง ต่อรีพับลิกัน 217 ที่นั่ง

แต่หากฝั่งรีพับลิกันตื่นตัวออกมาใช้สิทธิมากกว่า ผลที่ออกมาอาจเป็นรีพับลิกัน 238 ที่นั่ง ได้เสียงข้างมากเกินเดโมแครตถึง 25 ที่นั่ง จาก ส.ส.ทั้งหมด 435 คน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง