"ชูวิทย์" แฉนายทุนจีนตั้งบริษัทในไทยประมูลงานรัฐ ชง ตร.สอบฟอกเงิน

อาชญากรรม
8 พ.ย. 65
15:19
798
Logo Thai PBS
"ชูวิทย์" แฉนายทุนจีนตั้งบริษัทในไทยประมูลงานรัฐ ชง ตร.สอบฟอกเงิน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
“ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” แฉกลุ่มนายทุนจีนตั้งบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ เปิดรับประมูลงานหน่วยงานของรัฐมากว่า 20 ปี พบเคยประมูลติดตั้งระบบไฟฟ้าชนะไปกว่า 90 ล้านบาท เปลี่ยนชื่อกรรมการทุกสัปดาห์ ชี้เป็นพฤติกรรม "ใส่สูทปล้น"

วันนี้ (8 ต.ค.2565) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีตผู้ประกอบธุรกิจสถานบริการ นำข้อมูลการจัดตั้งบริษัทของนายทุนจีนที่เข้ามาทำธุรกิจในไทย เพื่อฟอกเงินจากธุรกิจสีเทาโดยเฉพาะออกมาเปิดเผยแก่สื่อมวลชน เนื่องจากก่อนหน้านี้ประเทศจีนมีการปราบปรามกลุ่มขบวนการทำธุรกิจผิดกฎหมายอย่างหนัก จนทำให้กลุ่มชาวจีนกระจายออกมาทำธุรกิจหลอกลวงประชาชนในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมาก

นายชูวิทย์ แสดงเอกสารรับรองการจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พบว่า จัดตั้งเป็นบริษัทนิติบุคคลตั้งแต่ปี 2543 โดยในครั้งแรกมีคนจีน และไทยร่วมเป็นกรรมการเพียง 2 คน ทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 15 ล้านบาท

จากนั้นมีการเปลี่ยนรายชื่อกรรมการบริษัทเป็นคนจีนเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมีเฉพาะคนจีนเป็นกรรมการบริษัท พร้อมทั้งเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 21 ล้านบาท ในปี 2546 จนเพิ่มทุนจดทะเบียนอีกครั้งเป็น 80 ล้านบาท ในปี 2549 จนถึงปัจจุบัน และมีกรรมการเป็นคนจีนทั้งหมด โดยเปลี่ยนชื่อกรรมการบริษัททุก ๆ 7 วัน

นายชูวิทย์ ยังพบหลักฐานการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างระหว่างบริษัทนี้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ และชนะการประกวดราคาเป็นเงินกว่า 90.6 ล้านบาท และยังชนะการประกวดราคากับหน่วยงานนี้มาแล้วหลายครั้ง แม้ว่าหลักเกณฑ์การพิจารณาจะกำหนดให้วัสดุที่จะนำมาใช้จะต้องได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมในประเทศไทยเท่านั้น

กลุ่มทุนจีนเหล่านี้มาฟอกเงิน โดยใช้หน่วยงานของรัฐ ถือว่ากระทบกับความมั่นคงของประเทศ 100%

ทั้งนี้ นายชูวิทย์ เตรียมส่งหลักฐานเหล่านี้ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำเนินคดีกับกลุ่มทุนจีนที่เข้ามาเปิดบริษัทในไทยแบบนี้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนจีนเหล่านี้ด้วย

สำหรับกลุ่มทุนจีนที่นำมาเปิดเผยนี้เป็นเพียงกลุ่มทุนเดียว แต่ปัจจุบันพบว่ามีการทำอยู่จำนวนมาก ที่ถือว่าผิดกฎหมายทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับผู้มีสิทธิ์ขอขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ และ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ซึ่งถือว่ากลุ่มทุนจีนกำลังเข้ามาครอบงำกิจการในไทยมากขึ้น จากเดิมที่บริษัทต่างชาติเข้ามาถือหุ้นในไทยจะให้สิทธิ์คนไทยถือหุ้นมากกว่า แต่ปัจจุบันจากเอกสารจะเห็นได้ว่าคนจีนเข้ามาถือหุ้นและเป็นกรรมการบริษัททั้งหมดแล้ว พฤติกรรมของกลุ่มทุนจีนเหล่านี้จึงถือได้ว่าเป็นกลุ่ม “ใส่สูทปล้น”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง