หมอเตือนหน้าหนาวระวัง “ไฮโปเธอร์เมีย” ภาวะตัวเย็นเกิน

สังคม
28 พ.ย. 65
08:05
22,183
Logo Thai PBS
หมอเตือนหน้าหนาวระวัง “ไฮโปเธอร์เมีย” ภาวะตัวเย็นเกิน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมควบคุมโรคเตือนช่วงหน้าหนาวอาจเกิด “ภาวะตัวเย็นเกิน” เสี่ยงหัวใจและสมองทำงานผิดปกติ เป็นอันตรายถึงเสียชีวิต แนะหลีกเลี่ยงแช่น้ำหรือสวมเสื้อผ้าเปียกชื้น และเลี่ยงสัมผัสอากาศหนาว

หลายพื้นที่ของประเทศไทยอุณหภูมิเริ่มลดลง ส่งผลให้มีอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยในช่วงกลางสัปดาห์นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีอากาศเย็นกำลังปานกลางแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ประชาชนอาจมีอาการ “ภาวะตัวเย็นเกิน” หรือ “ไฮโปเธอร์เมีย (Hypothermia)” เป็นภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิลดต่ำเกิน จากการสัมผัสความหนาวเย็นเป็นเวลานาน เช่น อยู่ในอากาศหนาว หรือแช่ในน้ำที่เย็นจัด ทำให้ร่างกายสูญเสียกลไกการปรับอุณหภูมิ ไม่สามารถสร้างและเก็บความร้อนในร่างกายได้ ส่งผลให้อุณหภูมิของร่างกายลดต่ำกว่า 35 องศาเซลเซียส เป็นเหตุให้อวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะหัวใจและสมองทำงานผิดปกติ ก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรงไปจนถึงเสียชีวิตได้

อาการ “ภาวะตัวเย็นเกิน”

ระยะแรก ผู้ป่วยจะมีอาการหนาวสั่น พูดอ้อแอ้ เดินเซ งุ่มง่าม อ่อนเพลีย ง่วงซึม หงุดหงิด สับสน ความสามารถในการคิดและตัดสินใจน้อยลง หากอุณหภูมิร่างกายยังลดต่ำอย่างต่อเนื่องผู้ป่วยจะหยุดสั่น มีอาการเพ้อคลั่ง ไม่ค่อยรู้สึกตัว หมดสติและหยุดหายใจในที่สุด

จากการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์การเสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องจากภาวะอากาศหนาว ระหว่างวันที่ 2 พ.ย.2564 - 1 มี.ค.2565 พบว่า มีผู้ป่วยเข้านิยามเฝ้าระวังทั้งสิ้น 10 คน มีรายงานผู้เสียชีวิตสูงสุดในช่วงเดือน ธ.ค. 5 คน รองลงมาเดือน ม.ค. 3 คน และเดือน ก.พ. 2 คน โดยเป็นเพศชาย 9 คน หญิง 1 คน อายุระหว่าง 38-75 ปี

ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ได้รับการวินิจฉัยภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน มีประวัติการดื่มสุราเป็นประจำ 4 คน และไม่สวมใส่เสื้อผ้าหรือมีเครื่องนุ่งห่มที่ไม่เพียงพอ 6 คน มีโรคประจำตัวหรือมีความพิการทางร่างกาย 4 คน

สำหรับคำแนะนำในการป้องกันการเจ็บป่วยที่เกี่ยวเนื่องจากภาวะอากาศหนาวเย็น มีข้อควรปฏิบัติดังนี้

1. สวมใส่เสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นเพียงพอ ห่มผ้าห่มหรือผ้านวมหนาๆ หรือผิงไฟให้ความอบอุ่น
2. หลีกเลี่ยงการอยู่ในน้ำเย็นหรือสวมเสื้อผ้าที่เปียกเป็นเวลานาน
3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสอากาศหนาวหรือลมหนาวนอกบ้าน หากเลี่ยงไม่ได้ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นครอบคลุมศีรษะไปถึงหน้าและใส่ถุงมือถุงเท้า
4. ไม่ดื่มแอลกอฮอล์เพื่อแก้หนาว เพราะจะทำให้หลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัว ความร้อนจะถูกระบายออกจากร่างกายมากขึ้น ทำให้อุณหภูมิของร่างกายลดลง หากปล่อยให้อุณหภูมิต่ำลงเรื่อยๆ โดยไม่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย กล้ามเนื้อจะเกร็งตัวเสี่ยงต่อภาวะเซลล์สมองตาย เนื่องจากภาวะหัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตในที่สุด
5. คนใกล้ชิดควรดูแลเด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรังเป็นพิเศษในช่วงที่อากาศหนาวเย็น

วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น

หากพบผู้ป่วยที่มีภาวะไฮโปเธอร์เมีย ควรปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยวิธีที่ถูกต้อง ดังนี้

1. พาผู้ป่วยหลบอากาศและลมที่หนาวเย็น หรือขึ้นจากน้ำเย็นและพาเข้าไปยังห้องที่มีความอบอุ่นและไม่มีลมพัดเข้า
2. หากผู้ป่วยสวมเสื้อผ้าเปียกน้ำควรปลดออก เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่แห้งและให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
3. เพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายด้วยการใช้ผ้านวม-ผ้าห่มห่อคลุมตัว หรือสวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ กรณีที่จำเป็นต้องอยู่กลางแจ้งควรสวมเสื้อผ้าคลุมถึงหน้าและศีรษะ นอกจากนี้อาจนอนกอดหรือแนบชิดร่างกายผู้ป่วย เพื่อถ่ายเทความร้อนให้ผู้ป่วย
4. ให้ผู้ป่วยนอนนิ่งๆ ในท่านอนหงายบนพื้นที่อบอุ่นหรือมีผ้าหนาๆ ปูรอง หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวร่างกายโดยไม่จำเป็น ห้ามนวดหรือแตะต้องตัวผู้ป่วยแรงๆ เนื่องจากอาจกระเทือนส่งผลให้หัวใจหยุดเต้นได้
5. หากผู้ป่วยยังรู้สึกตัว ให้ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มอุ่นๆ ห้ามให้ผู้ป่วยดื่มแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์เด็ดขาด
6. หากผู้ป่วยหยุดหายใจหรือหายใจแผ่วเบา ให้ทำการกู้ชีพและโทรสายด่วน 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือ

ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

ข่าวที่เกี่ยวข้อง