โฆษกสำนักงานอัยการยูเครน อ้างถึงชิ้นส่วนขีปนาวุธหลายพันลูก รวมถึงระเบิดลูกปรายและชิ้นส่วนจรวดของรัสเซียที่ใช้โจมตีเมืองคาร์คีฟ โดยระบุว่ารัสเซียใช้อาวุธเหล่านี้โจมตีระบบสาธารณูปโภคของพลเรือน โรงพยาบาล อาคารที่พักอาศัยของประชาชน รวมถึงธุรกิจของภาคเอกชนและทางการ ซึ่งไม่มีส่วนใดๆ เกี่ยวข้องกับกองทัพ หลักฐานเหล่านี้จะถูกนำไปตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญและทีมสืบสวนของศาลอาญาระหว่างประเทศ
ในขณะที่สถานการณ์ของทหารยูเครนที่ประจำการในแนวหน้าของภูมิภาคดอนบาส กำลังเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวจัด รวมทั้งมีฝนตกลงมา ทำให้พื้นที่กลายสภาพเป็นบ่อโคลน ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าสภาพอากาศเช่นนี้จะทำให้ทหารยูเครนเป็นฝ่ายได้เปรียบเหนือทหารรัสเซีย ที่ส่วนใหญ่เพิ่งเข้าประจำการ ยังขาดประสบการณ์และทักษะในการใช้ชีวิตในสมรภูมิรบท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวจัดเป็นเวลานาน
ส่วนการประชุมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ที่กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย
เยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต กล่าวหารัสเซียว่าพยายามใช้ฤดูหนาวเป็นอาวุธในการทำสงคราม โดยรัสเซียพ่ายแพ้ในสมรภูมิรบ จึงตอบโต้ด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน
ในขณะที่แถลงการณ์ของ NATO ระบุว่า จะให้ความช่วยเหลือยูเครนในการซ่อมแซมระบบพลังงานและปกป้องประชาชนจากการถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ ซึ่งเลขาธิการ NATO ระบุว่าจะอยู่เคียงข้างยูเครนตราบเท่าที่ต้องทำและจะไม่ยอมถอย