ตามถนนสายหลักในกรุงริยาร์ด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ติดธงชาติ จีน และ ซาอุฯ เพื่อเตรียมต้อนรับ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และผู้นำอาหรับชาติอื่นๆ

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2656 ตามเวลาท้องถิ่นประเทศซาอุฯ สำนักข่าว SPA ของรัฐบาลซาอุฯ รายงานว่าการไปเยือนของผู้นำจีนครั้งนี้ เป็นไปตามคำเชิญของ สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด แห่งซาอุฯ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านประวัติศาสตร์ และความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่าง 2 ประเทศ
คาดว่าจะมีการลงนามในข้อตกลงทวิภาคีระหว่าง 2 ประเทศ มูลค่ากว่า 29,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุว่า การไปเยือนซาอุฯ ในครั้งนี้ สี จิ้นผิง จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ จีน-อาหรับ ซึ่งจัดเป็นครั้งแรกที่กรุงริยาด
การไปเยือนครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่จีนต้องการพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศในตะวันออกกลางให้ล้ำลึกมากขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆกับสหรัฐฯ และประเทศตะวันตกอื่นๆ คาดว่าซาอุฯ ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มการค้ากับจีน หารือเรื่องความมั่นคงในภูมิภาค และขยายความสัมพันธ์ให้แนบแน่นมากขึ้น
มีรายงานว่าเจ้าชายมุฮัมหมัด บิน ซัลมาน เตรียมงานต้อนรับผู้นำจีนเต็มรูปแบบ ซึ่งนักการทูตในระดับภูมิภาคเปรียบเทียบว่าต่างจากการต้อนรับ โจ ไบเดน ปธน.สหรัฐฯ ซึ่งดูจะเงียบกว่า

เจ้าชายมุฮัมหมัด บิน ซัลมาน ให้การต้อนรับ สี จิ้นผิง
เจ้าชายมุฮัมหมัด บิน ซัลมาน ให้การต้อนรับ สี จิ้นผิง
การต้อนรับผู้นำจีน อาจจะเท่ากับการส่งสัญญาณปรับความสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศของซาอุฯ จากก่อนหน้านี้ที่สนิทกับสหรัฐฯ แต่เมื่อถูกวิจารณ์หนักเรื่องสิทธิมนุษยชน จึงต้องปรับท่าทีในระดับโลก
ขณะที่จีนมองว่า ซาอุฯ เป็นพันธมิตรที่เป็นกุญแจสำคัญในตะวันออกกลาง ไม่เฉพาะเรื่องการส่งออกน้ำมันเท่านั้น แต่อาจจะมีความรู้สึกร่วมกันเกี่ยวกับโลกตะวันตก โดยเฉพาะเรื่องสิทธิมนุษยชน
หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน เคยพูดในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ซาอุฯ ถือเป็นประเทศที่มีความสำคัญลำดับต้นๆ ในยุทธศาสตร์การทูตโดยรวมของจีนในระดับภูมิภาค
บทบรรณาธิการ Global Times ของจีน เรียกการประชุมสุดยอด จีนและชาติอาหรับ ครั้งนี้ว่าเป็นหมุดหมายสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์ ของความสัมพันธ์จีนและชาติอาหรับ ในบทความระบุด้วยว่าผลกระทบจากอาหรับสปริง แสดงว่าทั้งภูมิภาคมีความปรารถนาร่วมกันที่จะหลีกเลี่ยงภาวะวุ่นวายทางการเมือง และบรรลุความสำเร็จของการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ และสนอกสนใจที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์ของจีน
เมื่อปี 2019 เจ้าชายมุฮัมหมัด บิน ซัลมาน เสด็จเยือนจีน และได้พบกับ สี จิ้นผิง ที่มหาศาลาประชาชน ที่กรุงปักกิ่ง โดยหารือกันเรื่องข้อตกลงน้ำมัน และการพัฒนาเศรษฐกิจ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการแถบและเส้นทาง BRI ของจีน เจ้าชายมุฮัมหมัด บิน ซัลมาน ทรงได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกฯ ในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา และช่วงนี้ได้ทรงนำความเป็นซาอุฯ ออกสู่เวทีโลก
พระองค์นำคณะไปร่วมประชุม G-20 ที่เกาะบาหลี ของอินโดนีเซีย ซาอุฯ เป็นหนึ่งในสมาชิก G-20 และได้หารือทวิภาคีกับหลายประเทศ แต่ไม่ได้พบกับผู้นำสหรัฐฯ ในที่ประชุม

เจ้าชายมุฮัมหมัด บิน ซัลมาน ขณะเข้าร่วมประชุม G-20 2022 ประเทศอินโดนีเซีย
เจ้าชายมุฮัมหมัด บิน ซัลมาน ขณะเข้าร่วมประชุม G-20 2022 ประเทศอินโดนีเซีย
จากนั้นทรงมาร่วมการประชุมเอเปคในไทย ในฐานะแขกพิเศษของรัฐบาลไทย และได้หารือทวิภาคีกับนายกฯ ไทยด้วย ถือว่าเป็นการฟื้นความสัมพันธ์กับไทยกลับสู่ปกติในรอบ 32 ปี และมีรายงานว่าทางรัฐบาลซาอุฯ เตรียมเม็ดเงินลงทุนในไทยในปีหน้า

เจ้าชายมุฮัมหมัด บิน ซัลมาน ขณะเข้าร่วมประชุมเอเปค 2022 ประเทศไทย
เจ้าชายมุฮัมหมัด บิน ซัลมาน ขณะเข้าร่วมประชุมเอเปค 2022 ประเทศไทย
ประธานที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการนโยบาย EEC ระบุว่า รัฐบาลและภาคเอกชนของซาอุฯ "เตรียมจะลงทุนในไทย" โดยกำหนดงบประมาณปี 2566 ปีเดียวสูงถึง 3 แสนล้านบาท ในอุตสาหกรรม ท่องเที่ยว เมดิคัลแคร์ น้ำมัน และปิโตรเคมี โดยเป้าหมายส่วนใหญ่ของซาอุฯ อยู่ในพื้นที่ EEC
แท็กที่เกี่ยวข้อง: