นาซาประกาศสิ้นสุดภารกิจยาน "InSight" หลังขาดการติดต่อ-พลังงานหมด

Logo Thai PBS
นาซาประกาศสิ้นสุดภารกิจยาน "InSight" หลังขาดการติดต่อ-พลังงานหมด
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
องค์การนาซาประกาศสิ้นสุดภารกิจ ยานสำรวจดาวอังคาร InSight อย่างเป็นทางการ หลังจากพลังงานหมด ปิดฉากภารกิจศึกษาโครงสร้างภายในดาวอังคาร ระยะเวลานานกว่า 4 ปี

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ รายงานว่า วันที่ 21 ธ.ค.2565 องค์การนาซาประกาศสิ้นสุดภารกิจ ยานสำรวจดาวอังคาร InSight อย่างเป็นทางการ หลังจากแผงโซลาร์เซลล์ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นหนาทึบ จนทำให้พลังงานหมดลงในที่สุด ปิดฉากภารกิจศึกษาโครงสร้างภายในดาวอังคารที่ระยะเวลานานกว่า 4 ปี

ยาน InSight มีชื่อเต็มคือ Interior Exploration using Seismic Investigations, Geodesy and Heat Transport เป็นยานสำรวจดาวอังคาร ประเภท Lander ที่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ เป็นเหมือนสถานีศึกษาวิจัยบนพื้นผิวดาวอังคาร ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศเมื่อวันที่ 5 พ.ค.2561ด้วยกระสวยอวกาศ Atlas และเดินทางถึงดาวอังคารในอีก 6 เดือนต่อมา

InSight ลงจอดบริเวณที่ราบใกล้เส้นศูนย์สูตรของดาวอังคาร ชื่อว่า Elysium Planitia ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดบนดาวอังคาร มีเป้าหมายเพื่อศึกษาโครงสร้างภายในของดาวอังคาร ตั้งแต่ชั้นเปลือกดาว ชั้นแมนเทิล ลงไปจนถึงแกนกลางของดาว เพื่อหาคำตอบว่า ดาวเคราะห์หินในระบบสุริยะเกิดขึ้นมาได้อย่างไร

แรกเริ่ม InSight ถูกกำหนดให้มีระยะเวลาภารกิจ 2 ปี (บนโลก) และเมื่อใกล้ถึงกำหนด นาซาพบว่ายานยังสามารถปฏิบัติภารกิจต่อได้เป็นอย่างดี นำมาซึ่งข้อมูลใหม่ ๆ เกี่ยวกับโครงสร้างดาวอังคาร เช่น ชั้นโครงสร้างภายในพื้นผิว ร่องรอยของสนามแม่เหล็กในอดีต สภาพภูมิอากาศบริเวณที่ยานลงจอด และข้อมูลแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นอีกนับพันครั้ง ในปี 2021 จึงมีการขยายระยะเวลาภารกิจออกไปเป็นสิ้นสุดปลายปี 2022 ซึ่งช่วงเดือนเมษายน 2022 นาซาเพิ่งประกาศขยายเวลาภารกิจออกไปอีกครั้ง เพราะยังมองเห็นถึงองค์ความรู้ใหม่ ๆ ที่ได้จากยาน แต่ขณะเดียวกันพบว่า ยานสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าออกมาได้น้อยลงเรื่อย ๆ เนื่องจากแผงโซลาร์เซลล์ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นสีแดง จึงคาดว่ายานอาจเหลือเวลาในภารกิจบนดาวอังคารอีกไม่นานแล้ว

InSight ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้มีระบบทำความสะอาดแผงโซลาร์เซลล์ มีเพียงแขนกลที่ปลายแขนเป็นอุปกรณ์คล้ายช้อนตักขนาดเล็กเท่านั้น ที่พอจะใช้ทำความสะอาดได้ โดยมีเพียงความหวังเดียวที่จะทำให้ฝุ่นหลุดออกไปจากแผงโซลาร์เซลล์ได้คือ “dust devil” หรือลมพายุที่รุนแรงบนดาวอังคาร ในที่สุดแล้ว dust devil ก็ไม่เกิดขึ้น ปริมาณฝุ่นสีแดงยังคงเพิ่มมากขึ้น และปริมาณแบตเตอรี่ก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา นาซาเผยว่า ขณะนี้ยานสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้เพียง 20% เพียงเท่านั้น และ InSight กำลังจะสิ้นสุดภารกิจในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ หลังจากนี้ หากมีการส่งชุดคำสั่งไปที่ยานครบ 2 ชุดแล้วยานไม่ตอบสนอง ก็จะถือว่าภารกิจ InSight ได้สิ้นสุดลงแล้ว

จนในที่สุด วันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทีมควบคุมพยายามส่งชุดคำสั่งไปยังยาน InSight แล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองใด ๆ กลับมา นาซาจึงตัดสินใจประกาศสิ้นสุดภารกิจ InSight อย่างเป็นทางการ ปิดฉาก 4 ปีภารกิจ InSight กับข้อมูลแผ่นดินไหวจำนวน 1,319 ครั้ง ที่ยานตรวจจับได้ ทั้งจากอุกกาบาตพุ่งชนและจากพลังงานภายในดาวเอง นำมาซึ่งองค์ความรู้ใหม่ ๆ มากมายเกี่ยวกับโครงสร้างภายในดาวอังคาร ที่ไม่เคยมียานอวกาศใดทำได้มาก่อน

Thomas Zurbuchen ผู้ช่วยผู้อำนวยการ Science Mission Directorate ขององค์การนาซา กล่าวว่า ได้เฝ้าดู InSight ตั้งแต่ช่วงปล่อยจรวด จนถึงช่วงลงจอดบนดาวอังคาร และแม้กระทั่งวันนี้ที่จะต้องบอกลา มันเป็นเรื่องน่าเศร้าจริง ๆ แต่องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ ที่ได้มานั้น ก็ควรค่าแก่การยกย่อง

InSight เป็นภารกิจเดียวที่มีอุปกรณ์ในการขุดเจาะลึกลงไปใต้ชั้นผิวดาว เพื่อศึกษาคุณสมบัติภายในของดาวอังคาร ซึ่งยานประเภทโคจรรอบดาว และรถสำรวจภาคพื้นไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ ไม่เพียงแต่จะเป็นข้อมูลพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนภารกิจสำรวจดาวอังคารในอนาคต แต่ยังรวมถึงการทำความเข้าใจโลกของเราจากการศึกษาดาวอังคารได้อีกด้วย เพราะดาวอังคารและโลกต่างเป็น “ดาวเคราะห์หิน” เช่นเดียวกัน ดังนั้น การทำความเข้าใจโครงสร้างภายในของดาวอังคาร ก็เป็นอีกหนึ่งหนทางในการทำความเข้าใจต้นกำเนิดของโลกเราได้เช่นเดียวกัน โดยหลังจากนี้ ข้อมูลที่ InSight ส่งกลับมายังโลกนั้น จะถูกวิเคราะห์โดยทีมนักวิทยาศาสตร์ต่อไป เพื่อทำความเข้าใจโครงสร้างภายในของดาวอังคารให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง