วันนี้ (9 ม.ค.2566) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า กลุ่มผู้สนับสนุน จาอีร์ โบลโซนาโร อดีตประธานาธิบดีบราซิล บุกเข้าไปในรัฐสภา ทำเนียบประธานาธิบดีและศาลสูงสุด
ด้านในของทำเนียบประธานาธิบดี มีผู้ประท้วงกระจายตัวไปทั่วอาคาร พร้อมชูธงชาติบราซิล บางคนถ่ายภาพเซลฟี่ บางส่วนจับกลุ่มกันเฝ้ามองเหตุการณ์ด้านนอก ซึ่งสื่อท้องถิ่นของบราซิลประเมินว่าเหตุการณ์นี้มีผู้ประท้วงประมาณ 3,000 คน
ขณะที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตา บริเวณหน้าอาคารรัฐสภาในกรุงบราซิลเลีย โดยหวังว่าจะสกัดผู้ประท้วงไม่ให้บุกเข้าไปในตัวอาคาร แต่ไม่สำเร็จ
ชนวนเหตุของเรื่องนี้เกิดจากความไม่พอใจของกลุ่มผู้สนับสนุน โบลโซนาโร อดีตประธานาธิบดีที่แพ้การเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2022 โดยเขาได้คะแนน 49.1% พ่ายแพ้อย่างฉิวเฉียดให้กับ ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา วัย 77 ปี ที่ชนะไปด้วยคะแนน 50.9% ห่างกันไม่ถึง 2%
กลุ่มผู้สนับสนุน โบลโซนาโร ประกาศไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งและได้จัดการประท้วงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยกล่าวหาว่ามีการโกงเลือกตั้ง เรียกร้องให้ทบทวนผลการนับคะแนน รวมถึงชุมนุมเรียกร้องให้กองทัพทำรัฐประหารเพื่อยึดอำนาจจากผู้นำคนใหม่ เพื่อให้ผู้นำคนเก่าขึ้นมาทำหน้าที่ประธานาธิบดีต่อไป
แต่ในช่วงที่เกิดเหตุ ประธานาธิบดีไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง โดยลงพื้นที่ในนครเซาเปาโล เพื่อสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2022
ล่าสุด ผู้นำบราซิลประกาศว่าผู้ประท้วงที่บุกเข้าไปในสถานที่ราชการ ทำลายทรัพย์สินของราชการ จะต้องถูกติดตามตัวเพื่อนำตัวมารับโทษ
ด้าน เอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ทวีตข้อความประณามการบุกสถานที่ราชการของผู้ประท้วงในบราซิล และเรียกร้องให้เคารพต่อความต้องการของชาวฝรั่งเศสและสถาบันแห่งประชาธิปไตย โดยคาดว่าวันนี้ (9 ม.ค.) ตลอดทั้งวันจะมีแถลงการณ์จากนานาชาติเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้