วันนี้ (9 ม.ค.2566) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ผู้นำบราซิลสั่งเจ้าหน้าที่ความมั่นคงรักษาความปลอดภัยในกรุงบราซิเลีย เมืองหลวงของประเทศไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค.นี้ หลังกลุ่มผู้สนับสนุน จาอีร์ โบลโซนาโร อดีตประธานาธิบดีบราซิล ประท้วงและบุกเข้าไปในอาคารศาลสูงสุด ทำเนียบประธานาธิบดีและอาคารรัฐสภา จนนำไปสู่การปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงและตำรวจ
ผู้นำบราซิล ระบุอีกว่า ผู้ที่ก่อเหตุทั้งหมดจะถูกนำตัวมาลงโทษ พร้อมยืนยันว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก และผู้สนับสนุนกลุ่มผู้ก่อเหตุจะต้องชดใช้ตามกระบวนการยุติธรรม
ขณะที่นานาชาติร่วมกันประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้ง แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ระบุว่า การใช้ความรุนแรงเพื่อโจมตีสถาบันประชาธิปไตย ถือเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้และเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงในทันที
ด้าน โลเปซ โอบราดอร์ ประธานาธิบดีเม็กซิโก ระบุว่า การพยายามทำรัฐประหารที่น่ารังเกียจและไม่เป็นประชาธิบไตยโดยกลุ่มอนุรักษ์นิยมในบราซิล ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มคนผู้มีอำนาจซึ่งเป็นคนส่วนน้อย พร้อมเน้นย้ำว่า ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ประธานาธิบดีบราซิลคนปัจจุบัน ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
เหตุการณ์ประท้วงครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากกลุ่มผู้ประท้วงไม่พอใจผลการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2022 หลังจากโบลโซนาโร มีคะแนนห่างกับลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ไม่ถึงร้อยละ 2 โดยกล่าวหาว่ามีการโกงผลการเลือกตั้งและต้องการให้ทบทวนผลการนับคะแนน พร้อมทั้งเรียกร้องให้กองทัพทำรัฐประหารเพื่อยึดอำนาจจากผู้นำคนใหม่ เพื่อให้โบลโซนาโรขึ้นมาทำหน้าที่ประธานาธิบดีต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง