จับ 16 จนท.ดีเอสไอ-ตำรวจ เรียกรับผลประโยชน์นายทุนจีนสีเทา

อาชญากรรม
16 ม.ค. 66
16:34
3,474
Logo Thai PBS
จับ 16 จนท.ดีเอสไอ-ตำรวจ เรียกรับผลประโยชน์นายทุนจีนสีเทา
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
“พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” แถลงจับ 16 เจ้าหน้าที่รัฐรีดเงินกลุ่มจีนสีเทา 9.5 ล้านบ้านบาท แลกปล่อยตัวในบ้านพักอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู สั่งสอบเพิ่ม หากพบใครเกี่ยวข้องดำเนินคดีไม่ละเว้น

วันนี้ (16 ม.ค.2566) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล​ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม แถลงผลการจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐและล่ามภาษาจีน รวมจำนวน 16 นาย กรณีการเข้าตรวจค้นบ้านอดีตกงสุลนาอูรูประจำประเทศไทย และมีการเรียกรับผลประโยชน์กับชาวจีนที่พบว่าเข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายรวม 9,500,000 บาท แลกกับการปล่อยตัว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ศาลออกหมายจับผู้ต้องหารวม 16 นาย ในฐานความผิดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เรียกรับผลประโยชน์ และทำลายวัตถุหรือหลักฐาน ซึ่งทั้ง 16 คน

โดยการจับกุมครั้งนี้ หลังจากได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของอดีตกงสุลนาอูรูประจำประเทศไทย ในพื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2565 ซึ่งผลการตรวจค้นพบคนจีน 2 คน ชาวเมียนมา 6 คน และมีคนงานที่เป็นคนไทย และจีนอีกจำนวนหนึ่ง รวม 11 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีชาวจีนที่มีหมายจับสากล (หมายแดง) พร้อมของกลางเงินสด 8,000,000 บาท แต่ต่อมาพบว่ามีการบันทึกจับกุมผู้ต้องหาเพียง 1 คน ซึ่งเป็นผู้ดูแลบ้าน และของกลางเพียง 2,500,000 บาท ซึ่งไม่ตรงตามข้อเท็จจริง

นอกจากนี้ยังมีการเรียกรับผลประโยชน์เพิ่มจากเงินของกลางอีก 4,000,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐาน และขอศาลออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมด ซึ่งก็พบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมในวันดังกล่าว ที่มีทั้งตำรวจ และเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ

คดีนี้ตำรวจได้ควบคุมตัวล่ามชาวจีนที่ร่วมก่อเหตุ ขณะกำลังหลบหนีไปยังประเทศมาเลเซีย ได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะเป็นบุคคลที่ทาง ตม.กำลังเฝ้าระวัง จึงนำตัวมาสอบสวน เจ้าตัวให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ไปรับเงินจำนวน 4,000,000 บาท จากกลุ่มผู้ต้องหามาให้เจ้าหน้าที่ ที่เรียกรับผลประโยชน์

ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 15 นาย ให้การปฏิเสธทั้งหมด ซึ่งหลังจากนี้จะมีการสอบปากคำ และตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าเจ้าหน้าที่แต่ละชุดที่ไปออกปฏิบัติหน้าที่มีใครเป็นผู้สั่งการ และมีบันทึกประจำวันของการออกไปปฏิบัติหน้าที่หรือไม่

รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงิน และประวัติการให้โทรศัพท์ของผู้ต้องหาทั้งหมด อีกทั้งยังต้องขอความร่วมมือจากอดีตกงสุลใหญ่นาอูรูประจำประเทศไทยด้วย ซึ่งมีชื่อเป็นผู้เช่าบ้านหลังดังกล่าวว่า เหตุใดคนจีนกลุ่มนี้ถึงได้เข้ามาพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว

ขณะนี้ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่ามีบุคคลที่มาเข้ามาเกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใด ต้องรอผลการตรวจสอบ ทั้งนี้พบว่าในปัจจุบันผู้ต้องหาชาวจีนทั้งหมดได้หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว เบื้องต้นพบผู้ต้องหาบางส่วนมีหมายจับสากล (หมายแดง) ที่เกี่ยวข้องกับการทำหนังสือเดินทาง และวีซาปลอม ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาในคดีผับจินหลิง

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบว่าในวันที่เข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว มีกล้องวงจรปิด แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้นำมาเป็นของกลาง แต่กลับพบว่าทหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้กระทำความผิดได้นำเซิร์ฟเวอร์ของกล้องวงจรปิดตัวดังกล่าวกลับไปที่บ้านเพื่อทำลาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไปจนพบ และสามารถกู้ภาพกลับมาได้แล้ว

ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาดีเอสไอที่ก่อเหตุในครั้งนี้ จะเกี่ยวข้องกับคดีที่ปล้นบ้านคนจีน ในพื้นที่ จ.ชลบุรี หรือไม่ต้องรอการตรวจสอบ แต่เบื้องต้น กรณีที่นายอัจฉริยะ นำหลักฐานมาให้ ปรากฏว่าเป็นคนละกลุ่มกัน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ต้องมีการสอบสวนในทุกมิติ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเชื่อว่ากลุ่มผู้ต้องหาจะไม่ยอมถูกดำเนินคดีคนเดียวอย่างแน่นอน และจะรับสารภาพในที่สุด

ขณะที่ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ในส่วนของดีเอสไอ ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ระดับชำนาญการ ในขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง หากพบว่ามีมูลจะให้ออกจากราชการไว้ก่อน แต่ยืนยันว่าทั้งดีเอสไอ และตำรวจไม่ได้มีความขัดแย้งกัน หากพบบุคคลใดกระทำผิด ก็ต้องให้ออกจากราชการ

พร้อมยอมรับว่าช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีการร้องเรียนและตรวจสอบพบว่ามีเจ้าหน้าที่ก่อเหตุในลักษณะนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งในฐานะรองปลัดกระทรวงฯ ก็ให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ ที่สังกัดอยู่ภายใต้กระทรวงยุติธรรมอยู่แล้ว

อ่านข่าวเพิ่ม :

ดีเอสไอตั้งกรรมการสอบปม จนท.ถูกออกหมายจับเรียกรับเงิน

"บิ๊กโจ๊ก" เผยเตรียมเรียกสอบ ตม. 80 นาย พร้อม 3 นายพล เอื้อทุนจีนสีเทา

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง