“สีหนุวิลล์” กัมพูชา ในวันที่ จีน : หนี : ห่าง

อาชญากรรม
18 ม.ค. 66
16:19
3,655
Logo Thai PBS
“สีหนุวิลล์” กัมพูชา ในวันที่ จีน : หนี : ห่าง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ถูกจัดเป็นเมืองยุทธศาสตร์บนเส้นทางการค้าระหว่างประเทศสาย สำคัญของโครงการ One Belt One Road หรือ (OBOR) หรือที่ปัจจุบันเรียกว่า Belt and Road Initiative (BRI) ส่งผลให้มีการทยอยหลั่งไหลเข้ามาของนักลงทุนจีนพร้อมเม็ดเงินจำนวนมหาศาล

การหลั่งไหลของทุนจีนเริ่มต้นเข้าไปยัง "สีหนุวิลล์" ตั้งแต่ช่วงปี 2553 และเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนขึ้นในปี 2560 เมืองถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว มีโครงการขนาดใหญ่เข้ามาลงทุน ไม่ว่าจะเป็นคอนโด โรงแรม และกาสิโน รวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของจีน รวมแล้วกว่า 70 โครงการ ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่าหลายพันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ

เป้าหมายเดิมที่ถูกวางไว้ คือ ให้เป็นจุดศูนย์กลางเส้นทางและโลจิสติกส์ พร้อมๆกับวางแผนพัฒนาพื้นที่ให้เป็นเมืองอุตสาหกรรม เช่นเดียวกับ เมืองเซินเจิ้น ในประเทศจีน

แต่ปัจจุบันภาพลักษณ์ของสีหนุวิลล์กลายมาเป็น “มาเก๊าแห่งอาเซียน” และ   “ลาสเวกัสแห่งอาเซียน” หรือเปรียบได้กับเมืองสำหรับนักพนัน

ไม่เพียงแค่นั้น เมืองแห่งนี้ยังถูกระบุว่า เป็นศูนย์กลางของการนำพาคนมาทำงานเกี่ยวกับอาชญากรรมไซเบอร์ สำนักข่าวอัลจาซีรา เคยรายงานว่า พบสถานที่ที่ถูกใช้เป็นฐานอาชญากรรมไซเบอร์กระจายอยู่ทั่วสีหนุวิลล์ถึง 8 จุด ทั้งบริเวณริมชายทะเล และบริเวณโดยรอบของเมือง มีทั้งชาวจีนที่ได้สัญชาติกัมพูชา และชาวกัมพูชา มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลัง

สะท้อนผ่านคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานในสีหนุวิลล์

ข้อมูลผู้เสียหายคนไทย ที่เคยถูกหลอกไปทำงานกับเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ในสีหนุวิลล์ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 ถึง กันยายน 2565 พบว่า มีการประสานงานช่วยเหลือคนไทย 1,200 คน กลับประเทศ แบ่งเป็นจาก จ.พระสีหนุ 600 คน กรุงปอยเปต 200 คน กรุงพนมเปญ 150 คน จ.สวายเรียง กำปอด และเกาะกง 150 คน นอกจากนี้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 ถึงปัจจุบันยังคงให้ความช่วยเหลือราว 100 คน

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังจีน หนี ห่าง

ปัจจุบัน “สีหนุวิลล์” เต็มไปด้วยตึก อาคาร และโครงการ ที่หยุดชะงักมากกว่า 1,150 แห่ง บางแห่งถูกทิ้งร้าง บางแห่งเครื่องจักรที่เคยใช้ในงานก่อสร้างยังคงถูกวางทิ้งไว้ เช่น อาคารร้างสูง 6 ชั้น ที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากรูปปั้นสิงโตคู่สีทอง สัญลักษณ์ของสีหนุวิลล์ ด้านล่างของอาคาร เจ้าของที่ดินนำเอกสารแจ้งยกเลิกการเช่าที่ดินมาแปะไว้ ในเอกสารมีเนื้อหาต้องการแจ้งให้นายทุนชาวจีน ผู้เช่าที่ดินรู้ว่า เงินค่าเช่าที่ค้างจ่ายอยู่ 2 เดือน คิดเป็นเงินไทยราว 230,000 บาท หากไม่มีการชำระ จะถือว่าสัญญาเช่าเป็นอันยุติ สัญญาเช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของอาคารแห่งนี้ ทำขึ้นระหว่างเจ้าของที่ดินชาวกัมพูชากับผู้เช่าชาวจีนเมื่อ 2 มกราคม 2562 และแจ้งยกเลิกการเช่าในเดือนกันยายน 2563

นายฮง วานนาค ผู้อำนวยการสถาบันความสัมพันธ์เศรษฐกิจระหว่างประเทศกัมพูชา มองว่า เป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 และส่วนหนึ่งมาจากนโยบายการปราบปรามพนันออนไลน์ของรัฐบาลกัมพูชา แต่ก็อาจเป็นเพียงแค่ส่วนน้อย โดยส่วนตัวเขาเชื่อว่า นักลงทุนชาวจีนไม่ได้ทิ้งสีหนุวิลล์ไป แต่เป็นการพักการลงทุนชั่วคราว และขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างแก้ไขปัญหาอาคารที่ถูกทิ้งร้างทั้งหมด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง