ป.ป.ช.รับสำนวนคดีสินบน-ไต่สวนบิ๊กกรมอุทยานฯ

สิ่งแวดล้อม
23 ม.ค. 66
11:59
269
Logo Thai PBS
ป.ป.ช.รับสำนวนคดีสินบน-ไต่สวนบิ๊กกรมอุทยานฯ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ป.ป.ช.รับสำนวนคดีสินบนกรมอุทยานฯ พร้อมส่งตัว "นายรัชฎา" จากบก.ปปป.เตือนพยานบุคคลอย่าให้การเท็จเสี่ยงถูกเอี่ยวขบวนการ หากให้ข้อมูลกันเป็นพยานไม่ถูกโทษอาญา-วินัย ด้าน "ดำรงค์" ถามหาสปิริต นายกฯ-วราวุธ เพิกเฉย สางปมส่วย

วันนี้ (23 ม.ค.2566) มูลนิธิสืบนาคะเสถียร จัดเสวนา "ส่วยสินบน บทเรียน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช บทเรียนข้าราชการไทย"  

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานฯ ถูกกล่าวหาว่า เรียกรับเงินการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งจากผู้ใต้บังคับบัญชาว่า

ขณะนี้ยังอยู่ในอำนาจของพนักงานสอบสวน โดยเฉพาะผู้ที่มีรายชื่อจากหลักฐานบนซองต่าง ซึ่งวันนี้พนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) จะนำสำนวน และผู้ถูกกล่าวหาส่งมาที่ปปช.

วันนี้ได้ประสาน ทางบก.ปปป.และนำตัวอธิบดีรัชฎาไปที่ ปปช.ด้วย โดยปปช.จะรับเรื่องดังกล่าวไว้ไต่สวนเอง และจะมีการควบคุมตัวอธิบดีที่ถูกกล่าวหาไว้ หรือปล่อยตัวไป

นายนิวัติไชย กล่าวว่า ตามขั้นตอนถ้ารับไต่สวนคดีสินบน จะแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวน โดยมีกรรมการจาก ปปช.2 คน และกรรมการ ผู้ทรงคุณวฒิ และกำหนดกรอบจะแล้วเสร็จภายใน 2 ปี

คดีนี้มีหลักฐานชัดเจนเพียงพอ ทั้งพยานบุคคล หลักฐานลายมือชื่อ คาดว่าจะไม่น่าจะเกิน 1 ปี แม้ว่าพยานบางคนอาจจะให้การภาคเสธ หรือให้ข้อมูลตามความจริง

ทั้งนี้ขอเคลียร์ประเด็นที่พยานหลายคนยังกังวลว่า การมอบเงินจะเป็นผู้ถูกกล่าวหาไปด้วยหรือไม่ ขอย้ำอีกครั้งว่า การให้ถ้อยคำที่มีประโยชน์ ทาง ปปช.จะกันไว้เป็นพยาน ส่วนจะสาวไปถึงใคร หรือทุกคนมีมือที่ส่งต่อถ้ามีพยานหลักฐานเพียงพอจะขยายผลต่อ

ถ้าปปช.กันบุคคลจะไม่ผิดทั้งอาญา และวินัย แต่ถ้าให้การเป็นเท็จ นอกจากจะถูกกล่าวหาแล้วยังจะตกเป็นผู้มีสวนร่วมในกระบวนการ 

นอกจากนี้ นายนิวัติไชย กล่าวอีกว่า ขอชื่นชมบุคคลที่กล้ารับความจริงในการเปิดเผยเรื่องทุจริต กล้าให้เบาะแส เพราะถ้ายังไม่มีใครปูดสิ่งที่อยู่ใต้พรมก็รอดไป เพราะคนที่จะเดือดร้อนก็คือตัวท่านเอง ถ้ายังทนรับกรรม ยอมจ่ายเงินค่าตำแหน่ง ฝากให้ข้าราชการถ้าเห็นกระทำทุจริตอย่าเพิกเฉย เพราะต่อให้เป็นปลัด เป็นรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรี

ถามหาสปิริตปลัด ทส.-วราวุธ 

ด้านนายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าววว่า รู้สึกผิดหวังกับการเพิกเฉยของ ทส.โดยเฉพาะนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส.ตนหมดความไว้วางใจ เพราะทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และสมัยหน้าคงต้องคัดคนมาทำหน้าที่ ผิดหวังมาก เรื่องนี้น่าอับอาย จับได้คาหนังคาเขาในห้องทำงาน 

นอกจากนี้อยากให้กรมอุทยานฯ เร่งคืนตำแหน่งให้กับข้าราชการ 300 คนที่ถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรม เพราะตอนนี้มีเพียงแค่นายประวัติศาสตร์ จันทรเทพ หัวหน้าอุทยานฯทับลานที่ได้คืนตำแหน่ง เพราะต้องไปขึ้นโรงขึ้นศาลในคดีรีสอร์ตที่ยังติดในขั้นศาล

ในช่วงเป็นกมธ.เคยมีคนเสนอให้นำที่ดินรัฐไปออกโฉนด แต่ผมปฏิเสธไปว่า คะแนนเสียงผมไม่ต้องการ ถ้าจะเอาไปออกโฉนด ไม่มีความจำเป็น ถึงกับกันผมออกจากห้องประชุม 

นายดำรงค์ กล่าวอีกว่า อยากพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อไปพูดคุยเรื่องปัญหาภายในของกรมอุทยานฯอย่างละเอียด แต่เป็นแค่ ส.ส.ยังพบตัวยาก ถ้าท่านนายกรัฐมนตรี อยากได้ข้อมูลขอให้คนประสานมาได้ 

ฝากนายกรัฐมนตรี ท่านจะเป็นฮีโร่ของแผ่นดินเอาคนดีๆ มาทำหน้าที่แทน อย่านิ่งเฉย 

เปิดงบเทฯ หน่วยเสริมแทนหน่วยหลัก 

นายสมปอง ทองสีเข้ม อดีตผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ กล่าวว่า ภาพรวมกรมอุทยานฯ ดูแลผืนป่า 76.3 ล้านไร่ในการดูแลผืนป่า แต่กลับพบงบลงไปหน่วยงานหลักน้อยมาก แต่งบไปอยู่ที่งานเสริมเป็นส่วนใหญ่  มองว่างบฯ กว่า 10,000 ล้านบาท กับบุคคลากร 39,680 คน แบ่งเป็น ข้าราชการ 3,600 คน ลูกจ้าง 1,680 คน พนักงานราชการ 13,600 คน พนักงานทีโออาร์ 14,400 ค่าตอบแทนคนนอก 6,400 คนเพียงพอที่จะดูแลผืนป่า แต่ขึ้นกับการจัดสรรทั้งการดูแลบุคลากร และโครงสร้าง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง