เริ่ม 1 เม.ย. ค้างชำระค่าปรับจราจร ต่อภาษีได้แค่ใบแทน ป้ายจริงรับได้หลังจ่ายค่าปรับ ครบ 30 วัน

สังคม
8 ก.พ. 66
12:28
10,927
Logo Thai PBS
 เริ่ม 1 เม.ย. ค้างชำระค่าปรับจราจร ต่อภาษีได้แค่ใบแทน ป้ายจริงรับได้หลังจ่ายค่าปรับ ครบ 30 วัน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงนามตกลงเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ กับกรมการขนส่งทางบก ผู้ขับขี่ที่ค้างชำระค่าปรับจะได้ใบแทนเสียภาษีชั่วคราว แทนใบจริง จนกว่าจะชำระค่าปรับให้ครบถ้วน ภายใน 30 วัน หลังรับใบแทน โดยมาตรการนี้เริ่ม 1 เม.ย.นี้

วันนี้ (8 ก.พ.66) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ลงนามข้อตกลง ในการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการบังคับใช้กฎหมายว่า ด้วยการจราจรทางบก

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า เพื่อความปลอดภัยและกวดขันวินัยผู้ขับขี่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการขนส่งทางบก จึงออกมาตรการกวดขันวินัยจราจรขึ้น มาตรการที่ 1 คือ ตัดคะแนนความประพฤติ ซึ่งเริ่มดำเนินการไปตั้งแต่ 9 ม.ค.2566 ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้กระทำผิดกฎจราจรและถูกตัดคะแนนแล้ว 15,456 ราย

มาตรการที่ 2 คือ ชะลอการออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี สำหรับรถที่มีใบสั่งค้างชำระ ตามมาตรา 141/1 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

ทั้ง 2 หน่วยงานจะต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่ ข้อมูลยานพาหนะ และข้อมูลใบสั่งค้างชำระ เพื่อให้เกิดการบูรณาการข้อมูลได้แบบ Real Time ทำให้การบังคับใช้กฎหมายเกิดผลสัมฤทธิ์ และมีประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับมาตรการชะลอเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี จะใช้กับรถยนต์ที่ที่มีใบสั่งจราจรที่ค้างชำระ และเพิกเฉยไม่ชำระค่าปรับตามที่กำหนด โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะส่งข้อมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ไปยังนายทะเบียนกรมการขนส่งทางบก

เมื่อประชาชนไปต่อภาษีรถยนต์ประจำปี นายทะเบียนจะรับต่อภาษีประจำปี แต่จะยังไม่ได้รับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี (ป้ายภาษี) โดยจะได้หลักฐานชั่วคราวแทนป้ายภาษี ซึ่งมีอายุ 30 วัน เพื่อให้ผู้นั้นไปชำระค่าปรับที่ค้างชำระ ให้ครบถ้วนภายใน 30 วันก่อน จึงสามารถมารับป้ายภาษีได้

แต่หากประชาชนต้องการจะชำระค่าปรับในขณะต่อภาษี กฎหมายกำหนดให้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ให้นายทะเบียนสามารถรับชำระค่าปรับตามใบสั่งพร้อมกับชำระภาษี และรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีได้เลยทันที

ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า การร่วมจัดทำบันทึกข้อตกลงดังกล่าว ในทางปฏิบัติคือ เมื่อเจ้าของรถมาติดต่อชำระภาษีรถประจำปี ณ สำนักงานขนส่ง หากปรากฏว่า มีข้อมูลค่าปรับที่ค้างชำระ เจ้าของรถก็สามารถชำระค่าปรับที่ค้างชำระพร้อมกับชำระภาษีกับนายทะเบียนของกรมการขนส่งทางบก และรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีฉบับจริงได้ทันที

กรณีเจ้าของรถประสงค์จะชำระภาษีรถประจำปี โดยไม่ชำระค่าปรับที่ค้างชำระ เจ้าของรถก็ยังคงสามารถชำระภาษีรถประจำปีได้ตามปกติ โดยได้รับหลักฐานชั่วคราวแทนเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีรถประจำปี ซึ่งหลักฐานชั่วคราวดังกล่าวจะมีอายุ 30 วัน นับแต่วันที่นายทะเบียนออกให้

ต่อมาเจ้าของรถได้ชำระค่าปรับที่ค้างชำระภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากนายทะเบียนของกรมการขนส่งทางบกเรียบร้อยแล้ว สามารถนำหลักฐานแสดงการชำระค่าปรับมาแสดงต่อนายทะเบียนของกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้ออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีรถประจำปีได้

และหากเจ้าของรถมีความประสงค์ตรวจสอบข้อมูลค่าปรับที่ค้างชำระหรือจะโต้แย้งข้อมูลค่าปรับที่ค้างชำระสามารถติดต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติผ่านช่องทางที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดได้

ส่วนการเชื่อมโยงข้อมูลใบสั่งค้างชำระของทั้งสองหน่วยงานนั้น จะเริ่มใช้กับใบสั่งจราจรสำหรับการกระทำผิดตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2566 เป็นต้นไป โดยไม่มีผลย้อนหลัง

สำหรับการขับรถโดยไม่มีป้ายภาษี จะมีโทษตาม พ.ร.บ.รถยนต์ฯ มาตรา 11 ซึ่งกำหนดว่า รถยนต์คันที่ต่อภาษีแล้วจะต้องแสดงเครื่องหมายตามที่กรมการขนส่งกำหนดให้ครบถ้วน มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท

ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลใบสั่งค้างชำระ และคะแนนความประพฤติได้ จากเว็บไซต์ E-ticket PTM และแอปพลิเคชั่น ขับดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง