โฆษก ตร.ท่องเที่ยว แจงรถนำขบวนสามี "ดิว อริสรา" ภาพเก่าปี 60 - เร่งสอบ

อาชญากรรม
9 ก.พ. 66
11:39
785
Logo Thai PBS
โฆษก ตร.ท่องเที่ยว แจงรถนำขบวนสามี "ดิว อริสรา" ภาพเก่าปี 60 - เร่งสอบ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
โฆษกตำรวจท่องเที่ยว ยอมรับรถนำขบวนสามี "ดิว อริสรา" เป็นรถตำรวจท่องเที่ยวจริง แต่เป็นคลิปเก่าปี 60 รอสอบหากพบผิดฟันวินัยตำรวจย้อนหลังได้

วันนี้ (9 ก.พ.2566) พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ยอมรับว่ารถตำรวจท่องเที่ยวหมายเลขทะเบียนตามที่ปรากฏในภาพ ขณะขับนำขบวนไปตามถนน เป็นรถตำรวจท่องเที่ยวจริง ซึ่งรถคันดังกล่าวอยู่ในสังกัด ตำรวจท่องเที่ยวภาค 2 ซึ่งมีพื้นที่ในการปฏิบัติภารกิจในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ อีสาน

ส่วนจะเป็นการนำขบวนนักท่องเที่ยวไปพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำหรือไม่ ต้องรอการตรวจสอบ รวมทั้งผู้ใดเป็นคนขับ ซึ่งตามปกติแล้วการปฏิบัติภารกิจของรถสายตรวจท่องเที่ยวจะมี ด.ต.ผู้บังคับหมู่ฯ เป็นคนขับ และจะมีคู่สายตรวจนั่งไปด้วยอีก 1 นาย รวมในรถมี 2 นาย

พร้อมยืนยันว่า ภาพที่ปรากฏดังกล่าวเป็นภาพเก่าตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.2560 ขณะนั้นตนเองยังไม่ได้มาประจำตำแหน่งที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งรายละเอียดทั้งหมด ได้สั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายละเอียดทั้งหมด เกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนั้นแล้ว โดยเฉพาะต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นคนขับ ใครเป็นคนนั่งและมีภารกิจอะไร รวมทั้งเป็นขบวนของใคร ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมานานแล้วตำรวจบางนายอาจจะเกษียณอายุราชการไปก่อนหน้านี้แต่ก็สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าเป็นขบวนของ เซบาสเตียน ลี สามี ดิว อริสรา ดารานักแสดงสาวที่ออกมาแฉเรื่องบ่อนมาเก๊า 888 ขณะเดินทางไปบ่อนพนันฝั่งประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ ต้องรอการตรวจสอบเช่นกัน

แต่เบื้องต้น ดิว อริสรา ออกมายอมรับว่าเป็นขบวนของ เซบาสเตียน ลี สามีของตนเองจริง แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลหรือเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย แต่สามีของตนเองเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติและรถนำขบวนเป็นโปรโมชันของทางโรงแรมที่จัดให้แขก VVIP เท่านั้น

พล.ต.ต.อภิชาติ ย้ำว่าสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหากพบว่ามีตำรวจนายใดเข้าไปกระทำผิดไม่ว่ายังเป็นข้าราชการตำรวจอยู่หรือเกษียณอายุราชการไปแล้ว ก็มีบทลงโทษในทางวินัยย้อนหลังได้อยู่แล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง