บทวิเคราะห์ : ศักดิ์สยาม-ภูมิใจไทยในสถานการณ์พลิกผัน

การเมือง
4 มี.ค. 66
19:36
535
Logo Thai PBS
บทวิเคราะห์ : ศักดิ์สยาม-ภูมิใจไทยในสถานการณ์พลิกผัน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

แม้จะโดนเพียงพักการทำหน้าที่ รมว.คมนาคม หลังฝ่ายค้านเข้าชื่อยื่นให้ประธานสภาฯ นายชวน หลีกภัย ส่งต่อประธานศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานภาพการเป็นรัฐมนตรี ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กรณีใช้นอมินีที่เป็นพนักงานของกิจการในครอบครัว ถือหุ้นแทนใน หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีผลกระทบต่อนายศักดิ์สยาม และพรรคภูมิใจไทย ไม่น้อยทีเดียว เพราะเมื่อดูจากเงื่อนเวลานับถอยหลังสู่การเลือกตั้งแล้ว

อย่างไรเสียศาลคงวินิจฉัยเรื่องนี้ไม่ทันวันเลือกตั้ง ที่จะมีขึ้นแน่ ๆ เท่ากับเป็นเรื่องยากหากหวังจะกลับมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีตัวเดิมได้อีก ส่อเค้าหมดโอกาสแม้แต่จะเป็นรัฐมนตรีรักษาการ

จริงอยู่ว่าบารมีและชื่อขั้นนายศักดิ์สยามไม่ใช่ธรรมดา และเจ้าตัวคงไม่ลงสมัคร ส.ส.เขตแน่ ๆ หากจะไปต่อน่าจะลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคเสียมากกว่า

เพราะพรรคภูมิใจไทยขณะนี้ กำลังอยู่ในช่วง “พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก” โดนถล่มไม่ยอมหยุดจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง และปัจจุบันเป็น 'จอมแฉ' คนสำคัญ จึงย่อมมีคนติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ไม่น้อย

เพราะปฏิบัติดับเครื่องชนของ “เฮียชู” ณ คาบนี้ พรรคภูมิใจไทยโดนถล่มทั้งเรื่องโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ขึ้นกับกระทรวงคมนาคมของนายศักดิ์สยาม (ก่อนจะโดนศาลสั่งให้ยุติการทำหน้าที่รัฐมนตรี) เรื่องกัญชาเสรีที่จนแล้วจนรอด ร่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชงก็ยังไม่ผ่านสภาผู้แทนฯ แถมหัวหน้าพรรคอย่าง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รวมถึง “ครูใหญ่” อย่างนายเนวิน ชิดชอบ ต่างก็โดนนายชูวิทย์ ตามแซะตามสอยไม่หยุด

ถือเป็นการ “เสียศูนย์” โดนดิสเครดิตจากผู้คนส่วนหนึ่ง ทั้งที่เป็นแฟนคลับนายชูวิทย์ และประชาชนทั่วไปที่อาจไม่ใช่ เอฟซี นายอนุทินหรือพรรคภูมิใจไทย และบางส่วนอาจ “หมั่นไส้” หรือไม่ชอบอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว

แม้คาดหมายว่า เรื่องนี้นายชูวิทย์จะต้องพ่วงอาชีพ “ค้าความ” เข้าไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น แต่ยี่ห้อนายชูวิทย์ก็ยืนยันแล้วว่า ไม่กลัวอะไร

ไม่เพียงกระทบต่อพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น แต่อาจมีผลต่อการเลือกตั้ง ส.ส.ที่กำลังจะมีขึ้น เพราะเดิมทีความหวังพร้อมสกัดกั้นกระแส “แลนด์สไลด์” ของพรรคเพื่อไทยในหลายพื้นที่ รวมทั้งภาคอีสาน อาจสะดุด ไม่เป็นไปตามเป้า

เมื่อพรรคใหญ่อันดับ 2 ของขั้วรัฐบาลปัจจุบัน หากมีจำนวน ส.ส.จากการเลือกตั้งลดลง ก็จะพลอยส่งผลถึงจำนวนส.ส.ในขั้วรัฐบาลปัจจุบันเป็นเงาตามตัวไปด้วย

ต้องไม่ลืมว่า ก่อนหน้านี้ “เสี่ยหนู” ประกาศเสียงดังฟังชัดว่า หากพรรคภูมิใจไทยได้จำนวน ส.ส.มากกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ในขั้วรัฐบาลด้วยกัน ก็พร้อมจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีเอง ไม่ยอมเป็น “นั่งร้าน” ให้ใคร

คำตอบที่ชัดเจนสำหรับพรรคภูมิใจไทยนับจากนี้ นอกจากต้องเร่งปรับองคาพยพ และจัดทำ ”ยุทธศาสตร์” เพิ่มเติม เพื่อรับมือบริบทที่มีการปรับเปลี่ยนพลิกไปพลิกมาตลอดแล้ว ปัจจัยสำคัญอีกส่วนหนึ่ง อาจขึ้นอยู่กับแฟนคลับของสื่ออาวุโสบางคน ที่ออกโรงท้าชนถึงขั้นตัดขาดความเป็นเพื่อนกับนายชูวิทย์ ว่ายังจะเหนียวแน่นเช่นเดิมต่อไปมากน้อยแค่ไหน

การเมืองยุค 5 จี ในบริบท “ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร” อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

วิเคราะห์โดย : ประจักษ์ มะวงศ์สา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง