"ปราปต์ปฎล" แฉทนาย ฮ.อ้างเป็นเลขาฯ รมว.ช่วยคดีแลก 10 ล้าน

อาชญากรรม
7 มี.ค. 66
11:59
880
Logo Thai PBS
"ปราปต์ปฎล" แฉทนาย ฮ.อ้างเป็นเลขาฯ รมว.ช่วยคดีแลก 10 ล้าน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"ปราปต์ปฎล" แฉถูกทนายความ ฮ. อ้างตัวเป็นที่ปรึกษาเลขาฯ รัฐมนตรี เสนอช่วยเหลือคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D เรียกเงิน 10 ล้าน เบื้องต้นยังไม่ดำเนินคดีละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือเรียกรับผลประโยชน์ แต่ต้องการเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเอง-แฟนสาว

วันนี้ (7 มี.ค.2566) นายปราปต์ปฎล สุวรรณบาง หรือปราปต์ นักแสดง เปิดเผยถึงขบวนการตบทรัพย์ อ้างช่วยเหลือคดี ว่า ภายหลังที่แฟนสาวของตัวเองถูกจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา “ฉ้อโกง” ในวันที่ 18 ส.ค.2565

ต่อมาวันที่ 21 ส.ค.2565 มีเพื่อนผู้หญิง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของแฟนสาว ได้ติดต่อมาหาตัวเองว่ารู้จักกับที่ปรึกษาของเลขารัฐมนตรีที่สามารถช่วยเหลือได้ จึงนัดให้มีการพูดคุยเจรจากันที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านเลียบด่วนรามอินทรา ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน

วงสนทนา มีเพื่อนสนิทของแฟนสาว แฟนของเพื่อนคนดังกล่าว และทนายความคนนึง ชื่อ ฮ. ซึ่งอ้างตัวเป็นที่ปรึกษาเลขารัฐมนตรี ใช้เวลาพูดคุยกว่า 1 ชั่วโมง โดยมีใจความสำคัญ คือ ทนายความ ฮ. บอกว่า “น้องเขาซวยที่ไปแต่งงานกับคนนั้น ซึ่งก็เชื่อว่า น้องไม่เกี่ยว แต่มันมีราคาของความยุติธรรมอยู่” พร้อมเสนอตัวว่าสามารถช่วยทำสำนวนอ่อนลงเพื่อให้พ้นคดีได้ พร้อมกับเรียกเงินหลัก 10 ล้าน อ้างว่าจะไปใช้เจรจากับผู้ใหญ่

นายปราปต์ปฎล บอกว่า ตกใจกับคำพูดดังกล่าว เพราะตอนแรกคิดว่าที่มาเจรจากัน หากช่วยเหลือเป็นค่าทนายความ 50,000 บาทก็พร้อมจ่าย แต่เงินจำนวนดังกล่าว ตนเองทำงานทั้งชีวิตก็หาไม่ได้ อีกทั้งไม่ต้องการจ่ายเงินให้กับการคอร์รัปชั่น

หลังจากนั้นเพื่อนของแฟนสาวได้ส่งไลน์มาย้ำเรื่องเงินหลัก 10 ล้านอีกครั้ง ซึ่งได้แต่แคปทุกอย่างไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด โดยส่วนตัวเชื่อว่าเพื่อนผู้หญิงหวังดี และไม่ได้รู้เห็นกับการตบทรัพย์ แต่เป็นเพราะรู้จักคน และอยากช่วยจริง ๆ

นายปราปต์ปฎล ยังบอกว่า การที่ตนเองออกมาแฉยังไม่ต้องการที่จะดำเนินคดีในข้อหาความผิดเรื่องการละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือเรียกรับผลประโยชน์ เพราะยังไม่ถึงเวลา และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเรื่องนี้ก่อน พร้อมยืนยันว่า การออกมาเรียกร้องวันนี้ ไม่ใช่การขู่เพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่เป็นเพียงการเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองและแฟนสาว โดยตนเองต้องการให้แฟนสาวได้รับการประกันตัวออกมาต่อสู้คดี เนื่องจากจะได้รวบรวมพยานหลักฐานต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ เพราะตอนนี้ศาลยังไม่ตัดสิน ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง