"บิ๊กโจ๊ก" สั่งดำเนินคดีอดีตผู้การฯนราธิวาสและพวก เรียกรับเงินคดียา-อาวุธปืน

อาชญากรรม
15 มี.ค. 66
16:12
2,760
Logo Thai PBS
"บิ๊กโจ๊ก" สั่งดำเนินคดีอดีตผู้การฯนราธิวาสและพวก เรียกรับเงินคดียา-อาวุธปืน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"พล.ต.อ.สุรเชษฐ์" สั่งดำเนินคดีอดีตผู้การฯ นราธิวาส และ ตำรวจ เรียกรับเงินช่วยเหลือผู้ต้องหาคดียาเสพติด-อาวุธสงคราม พบหลักฐานพฤติการณ์ความผิดชัดเจน

วันนี้ (15 มี.ค.2566) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าหลัง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ร้องเรียนขอให้ตรวจสอบตำรวจใน จ.นราธิวาส เรียกรับสินบนแลกกับการให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหาคดียาเสพติดและอาวุธปืนสงคราม รวมทั้งคดีลักลอบฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นอกจากนี้ยังให้ตรวจสอบข้าราชการฝ่ายปกครองช่วยเหลือกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดออกใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืน

ภายหลังการตรวจสอบพบว่ามีมูลความจริง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน โดยคดีแรกกรณีการลอบสังหารตำรวจที่ จ.นราธิวาส สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ โดยผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่าได้รับการจ้างวานจาก นายชญานนท์ อายุ 25 ปี ซึ่งคดีนี้ พล.ต.ต.แวสาแม สาและ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ให้การช่วยเหลือนายชญานนท์ไม่ให้รับโทษ

คดีที่ 2 กรณีนายอำเภอสุไหงโก-ลก ออกใบอนุญาตครอบครองปืนให้กับผู้ต้องหาคดียาเสพติด โดยตรวจสอบแล้วพบว่าได้ออกใบอนุญาตให้ผู้ต้องหา 3 กระบอกภายในหนึ่งวัน การสืบสวนยังพบว่านายชญานนท์รู้จักกับ นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร อดีตนายอำเภอสุไหงโก-ลก จึงประสานขอให้ออกใบอนุญาตมีและใช้อาวุธปืน (ป.4) โดยจ่ายเงินค่าอำนวยความสะดวกให้กระบอกละ 5,000-10,000 บาท รวม 7 กระบอก เป็นเงิน 4 หมื่นบาท

คดีที่ 3 คดีที่ พล.ต.ต.แวสาแม ช่วยเหลือผู้ต้องหาคดียาเสพติดให้พ้นจากการถูกดำเนินคดี จากการสืบสวนพบว่าเหตุเกิดเมื่อ วันที่ 6 ธ.ค.2564 ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จับผู้ต้องหาที่กำลังลำเลียงกัญชาอัดแท่ง 128 กิโลกรัม ส่งไปดำเนินคดีที่ สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส และพบว่าได้รับการว่าจ้างมาจากนายชญานนท์ให้ส่งกัญชาไปประเทศมาเลเซีย

ตำรวจจึงขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านของนายชญานนท์ก็พบตัวพร้อมพวกรวม 6 คน และอาวุธปืนสงคราม AK-47 ปืนลูกซอง ปืนพกสั้น รวม 3 กระบอก จึงถูกดำเนินคดี แต่ต่อมาพนักงานสอบสวนกลับไม่สั่งฟ้องนายชญานันท์กับพวกอีก 5 คน แต่สั่งฟ้องเพียงแค่ 1 คน ซึ่งจากการตรวจสอบพบความเชื่อมโยงด้านการติดต่อสื่อสารทางการเงินและทางโทรศัพท์ระหว่างตำรวจกับผู้ต้องหาในการช่วยเหลือให้พ้นจากการถูกดำเนินคดี

นอกจากนี้ยังพบว่า พล.ต.ต.แวสาแมได้ออกบัตรแหล่งข่าว ซึ่งปรากฏชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของ พล.ต.ต.แวสาแม เพื่อใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รับการอำนวยความสะดวกเมื่อถูกเรียกตรวจค้น ทำให้กลุ่มผู้ต้องหากล้าพกอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งเคยพบว่าได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย รปภ.โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ด้วย คดีนี้ชุดสืบสวนยังพบว่าพนักงานสอบสวนถูกแทรกแซงดุลยพินิจในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาหลายคดี โดย พล.ต.ต.แวสาแมโทรศัพท์สั่งการให้ปรับเปลี่ยนพฤติการณ์ทางคดีเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อผู้ต้องหา ทำให้ตำรวจในพื้นที่ จ.นราธิวาส ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยากลำบาก

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวว่าคณะทำงานมีมติให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา คดีอาญาและทางวินัย ประกอบด้วย พล.ต.ต.แวสาแม สาและ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส , พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผู้กำกับ สภ.ตากใบ , ร.ต.อ.นิมะอามิง วาเต๊ะ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ตากใบ , นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร อดีตนายอำเภอสุไหงโก-ลก และนายชญานนท์ นิเถาะ ผู้ต้องหาคดีครอบครองยาเสพติดและอาวุธปืน ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สิน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานช่วยเหลือบุคคลมิต้องรับโทษทางอาญา

ส่วนการดำเนินคดีทางวินัยพบว่ามีตำรวจเข้าข่ายความผิด 13 นาย โดยเป็นคดีวินัยร้ายแรง 3 นาย และไม่ร้ายแรง 10 นาย ซึ่งได้ส่งรายละเอียด พยานหลักฐานและรายชื่อตำรวจที่เกี่ยวข้องให้กองวินัยพิจารณาข้อบกพร่องและดำเนินการทางวินัยแล้ว

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง