"อนุทิน" ย้ำเดินหน้า "กฎหมายกัญชา" หากได้กลับมาเป็นรัฐบาล

การเมือง
22 มี.ค. 66
15:24
221
Logo Thai PBS
"อนุทิน" ย้ำเดินหน้า "กฎหมายกัญชา" หากได้กลับมาเป็นรัฐบาล
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"อนุทิน" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เผย พร้อมผลักดันกฎหมายกัญชา ให้สำเร็จ หากได้กลับมาเป็นรัฐบาล

วันนี้ (22 มี.ค.2566) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงอนาคตทางการเมืองหากได้กลับมาเป็นรัฐบาลโดยระบุว่า สิ่งที่ค้างคาอยู่นั้นก็ต้องผลักดันให้เกิดผลสำเร็จ เช่น กฎหมายกัญชา

หากพรรคภูมิใจไทยได้กลับเข้ามาเป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้งก็คงต้องเป็นเงื่อนไขแรกที่แจ้งให้พรรคร่วมรัฐบาลให้ผ่านกฎหมายนี้ ไม่ใช่ใช้เกมการเมืองดึงให้ไม่ผ่าน

ส่วนขั้วการเมืองต้องดูแลการเลือกตั้งแต่ละพรรคว่า มีที่นั่ง ส.ส.เท่าใด ยืนยันว่าพรรคไม่มีปัญหาขัดแย้งกับใคร ส่วนเรื่องเจตนารมณ์ แนวคิด อุดมการณ์เป็นอีกเรื่องหนึ่งว่าจะไปด้วยได้หรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าจำเป็นต้องเลือกระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร นายอนุทิน ตอบว่า เมื่อเข้าใกล้การเลือกตั้ง ทุกคนจะต้องใช้ผลการเลือกตั้งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการตัดสินใจทิศทางทางการเมืองแต่ละพรรค

นายอนุทิน กล่าวว่า จำนวนที่นั่ง ส.ส.ที่ประชาชาชนเลือกเข้ามา นอกจากจะเป็นการกำหนดแต่ละพรรคมี ส.ส.กี่คน

แต่พรรคภูมิใจไทยเราต้องแปลไปลึกกว่านั้นว่า ประชาชนสั่งให้เราทำอะไร เราขัดประชาชนไม่ได้ เราทำตามความต้องการของประชาชนเสมอ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเสียสมาธิหรือไม่กับเรื่องของนายชูวิทย์ นายอนุทินตอบว่า ผมยังทำงานได้อยู่ ทั้งงานการเมือง งานบริหารราชการแผ่น ผลักดันเงินให้ อสม.ได้ เรื่องแค่นี้คงไม่ทำให้มีความกังวลใด ๆ

ส่วนกรณี พล.อ.ประยุทธ์ ลงสมัครหรือไม่ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นั้น นายอนุทิน ตอบว่า วันนี้เป็นการเมืองในระบอบประชาธิปไตย 100% ไม่มีการเปลี่ยนผ่านของระบบใด ๆ

อย่างปี 2562 เป็นการเปลี่ยนผ่านจากมือ คสช.มาในระบบรัฐสภา และยังมีข้อกำหนดมากมายที่เป็นบทเฉพาะกาลซึ่งหายไปหมดแล้ว แต่ตอนนี้เหลืออย่างเดียว ส.ส.เลือกนายกฯ ซึ่งปีหน้าก็จบแล้ว

ดังนั้น การเลือกตั้งปี 66 เป็นการแข่งขันกันสร้างความชอบธรรม ความดีให้กับประชาชน และประชาชนเป็นผู้เลือก ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบอะไร นายกฯ จะลงแบบไหนเราไม่มีสิทธิไปก้าวก่ายเพราะอยู่คนละพรรค มีแต่ให้กำลังใจกันและกัน

การเป็น ส.ส.ก็เป็นตำแหน่งที่ทรงเกียรติ หากทำงานในสภาจะได้เข้าใจความต้องการของประชาชน แต่ถ้าเป็น ส.ส.ด้วย เป็นคณะรัฐมนตรีด้วย ก็ทำงานได้ 2 มิติ รับฟังปัญหาและแก้ไขปัญหาให้ประชาชน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง