ชนะคดี! ศาลชั้นต้นให้เรียกคืนรถ "Mazda 2 " ปี 2014-2018

เศรษฐกิจ
28 มี.ค. 66
19:53
9,796
Logo Thai PBS
ชนะคดี! ศาลชั้นต้นให้เรียกคืนรถ "Mazda 2 " ปี 2014-2018
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้มาสด้าเรียกคืนรถ Mazda 2 เครื่องยนต์ดีเซล ปี 2014 - 2018 ทุกคัน หลังผู้บริโภค 9 คนยื่นฟ้องมาสด้า เนื่องจากพบปัญหาเรื่องการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสั่น หรือเครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น

วันนี้ (28 มี.ค.2566) นายจิณณะ แย้มอ่วม ทนายความผู้ดูแลคดีการฟ้องร้อง คดีมาสด้า 2 เปิดเผยว่า ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัดเรียกคืนรถยนต์มาสด้า 2 เครื่องยนต์เชื้อเพลิงดีเซล (Mazda 2 Skyactiv D 1.5) ทุกคันที่ผลิตในปี ค.ศ.2014–2018 (ปี พ.ศ.2557–2561) เข้ามาซ่อมแซม เนื่องจากเป็นสินค้าที่ชำรุดบกพร่องและเป็นสินค้าไม่ปลอดภัยที่อาจทำให้เกิดอันตรายกับผู้ขับขี่ได้

นอกจากนั้นยังได้กำหนดให้บริษัทฯ ต้องชดใช้ราคาค่าซ่อมตามจริง ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถวันละ 1,800 บาท รวมถึงค่าเสียหายทางจิตใจรายละ 30,000 บาท อีกทั้งบริษัทฯ ต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปีนับจากวันฟ้อง

หลังจากที่ผ่านมาผู้บริโภค 9 คน ได้ยื่นฟ้องบริษัทมาสด้าเป็นคดีแบบกลุ่ม ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เนื่องจากพบปัญหาเรื่องการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเครื่องสั่น หรือปัญหาเครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น

ทั้งนี้เมื่อวิเคราะห์จากคำพิพากษาของศาลที่ออกมานั้นเป็นเรื่องที่ดี และเป็นบรรทัดฐานให้กับผู้ประกอบการรายอื่นที่จะต้องรับผิดชอบกับผู้บริโภคหรือลูกค้าของตัวเอง เพราะที่ผ่านมาเมื่อไม่มีสภาพบังคับที่ชัดเจน ผู้ประกอบการจะพยายามหลีกเลี่ยงและหลบหลีกความรับผิดชอบ

“ในหลาย ๆ คดี เมื่อเกิดเกิดสภาพบังคับโดยคำพิพากษาของศาลขึ้นและหากผู้ประกอบการหรือบริษัทไม่น้อมรับหรือไม่ปฏิบัติตาม อาจส่งผลให้ศาลชั้นสูงมองว่าเอาเปรียบผู้บริโภคและอาจมีคำสั่งลงโทษ โดยเพิ่มค่าเสียหายเชิงลงโทษโดยบริษัทจะต้องจ่ายให้กับผู้บริโภคอีก หลังจากนี้ผู้บริโภคต้องการเห็นความรับผิดชอบของผู้ประกอบการในการเยียวยาแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้น

คุ้มครองผู้ใช้รถรุ่นเดียวกันหากพบปัญหา

นอกจากนี้ คำพิพากษาของศาลมองว่ารถยนต์เป็นสินค้าที่ใช้บนท้องถนนและหากเครื่องยนต์ของรถคันนั้น ๆ ชำรุดบกพร่องจะกลายเป็นสินค้าที่ไม่ปลอดภัยและมีโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยงกับผู้ขับขี่และคนที่สัญจรบนท้องถนน

การฟ้องร้องในครั้งนี้ เป็นอาจเรียกได้ว่าเป็นคดีกลุ่มแบบเปิด ที่ศาลคุ้มครองรถยนต์มาสด้า 2 รุ่นดังกล่าวทุกคันที่ผลิตในปี ค.ศ.2014–2018 กล่าวคือ ผู้ที่ใช้รถยนต์ในรุ่นและปีการผลิตข้างต้น ที่พบปัญหาการใช้งานถือว่าเป็นผู้เสียหายทั้งหมดและต้องได้รับการชดเชยเยียวยาเช่นเดียวกัน

ที่ผ่านมาผู้ใช้รถรุ่นนี้หลายรายพบปัญหาในการใช้งาน โดยเฉพาะจังหวะที่จะเร่งแซง แต่เครื่องยนต์กลับสั่น รวมถึงไม่สามารถเร่งเครื่องยนต์ขึ้นได้ ขณะที่บางรายมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุจากปัญหาเครื่องยนต์ และถ้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริง คนส่วนใหญ่จะมองว่าคนขับประมาท แต่ไม่มีใครรู้ว่าในความเป็นจริงแล้วเกิดจากปัญหาของเครื่องยนต์หรือรถยนต์ที่ขับ

ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่ใช้รถรุ่นดังกล่าวเก็บหลักฐานการซ่อมรถทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานที่ระบุอาการเครื่องสั่น เครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น รวมถึงใบเสร็จค่าซ่อมรถยนต์ทั้งหมด และรอติดตามความคืบหน้าการประกาศรับชำระหนี้จากศาลต่อไป ซึ่งสภาองค์กรของผู้บริโภค (สภาผู้บริโภค)

ขณะที่ เพจมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ผู้บริโภคที่เสียหายทุกคน ที่ซื้อรถ Mazda 2 เครื่องยนต์ดีเซล ปี 2014-2018 ขอให้เตรียมเอกสารหลักฐานทุกอย่างไว้ให้พร้อม หากคำพิพากษาศาลชั้นอุทธรณ์ หรือฏีกา ถึงที่สุด ผู้บริโภค เป็นฝ่ายชนะ สามารถยื่นขอรับเงินชดเชยจากผู้ผลิต หลังเข้าสู่การบังคับคดี

โดยศาลระบุให้บริษัทเรียกคืนรถรุ่นที่เกิดปัญหาและนำมาซ่อม โดยบริษัทต้องชดใช้ราคาค่าซ่อมตามจริง + ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถวันละ 1,800 บาท ค่าเสียหายทางจิตใจ 30,000 บาท และบริษัทต้องจ่ายดอกเบี้ย 5% ต่อปีนับจากวันฟ้อง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง