เช็กสิทธิ-เช็กเงิน 1 เม.ย.เริ่มใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่

เศรษฐกิจ
1 เม.ย. 66
08:58
12,884
Logo Thai PBS
เช็กสิทธิ-เช็กเงิน 1 เม.ย.เริ่มใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กระทรวงการคลัง ระบุผู้ผ่านเกณฑ์พิจารณาคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จ 12.5 ล้านคน เริ่มใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ได้แล้ววันนี้ (1 เม.ย.)

วันนี้ (1 เม.ย.2566) นายพรชัย ฐีระเวช ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.นี้เป็นต้นไป ผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จภายในวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวน 12,565,862 คน สามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชน ดังนี้

1. วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม จากร้านธงฟ้าและร้านอื่นๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน ตั้งแต่เวลา 05.00-23.00 น.

2. วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด จำนวน 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ตั้งแต่เวลา 05.00-23.00 น.

3. วงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ จำนวน 750 บาทต่อคนต่อเดือน สามารถใช้โดยสารได้กับระบบขนส่ง 8 ประเภท ได้แก่
- รถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)
- รถบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)
- รถไฟฟ้า บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS, รถไฟฟ้ามหานคร หรือ MRT และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด
- รถไฟ โดยไม่จำกัดวงเงินตามประเภทรถ

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเตรียมเพิ่มประเภทระบบขนส่งเพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่ผู้มีสิทธิฯ ได้แก่ รถเอกชนร่วม ขสมก. รถเอกชน และส่วนราชการกรุงเทพมหานคร, รถเอกชนร่วม บขส. และรถเอกชน, รถสองแถวรับจ้าง และเรือโดยสารสาธารณะ โดยจะแจ้งความคืบหน้าให้ประชาชนทราบหากดำเนินการแล้วเสร็จ

4. มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า อุดหนุนค่าไฟฟ้า จำนวน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีสิทธิฯ จะเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด

5. มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา อุดหนุนค่าน้ำประปา จำนวน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ผู้มีสิทธิฯ ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาทด้วยตนเอง แต่หากผู้มีสิทธิฯ ใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท ผู้มีสิทธิฯ จะเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาทั้งหมด

ทั้งนี้ มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา ผู้มีสิทธิฯ ที่ประสงค์รับสิทธิในมาตรการดังกล่าว จะต้องลงทะเบียนผ่านผู้ให้บริการดังกล่าวก่อนเริ่มใช้สิทธิตามกรอบเวลาที่ผู้ให้บริการกำหนด ซึ่งกระทรวงการคลังจะชำระค่าบริการที่ผู้มีสิทธิฯ ได้ใช้บริการตามเงื่อนไขที่กำหนด ให้แก่หน่วยงานผู้ให้บริการทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ สำนักงานการประปานครหลวง และสำนักงานการประปาภูมิภาค โดยผู้มีสิทธิฯ ไม่ต้องสำรองเงินจ่ายค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาก่อนแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นครั้งแรกของประชาชนที่จะมีการใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐผ่านบัตรประชาชน ในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ก๊าซหุงต้ม และค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ หากผู้มีสิทธิฯ มีข้อสงสัยสามารถติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (Call Center) โทร. 02-109-2345

สำหรับผู้ประกอบการร้านธงฟ้าฯ และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ให้เตรียมความพร้อมอุปกรณ์เครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) และปรับปรุงแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ให้เป็นรุ่น (version) ปัจจุบัน เพื่อรองรับการชำระค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรประประชาชนของผู้มีสิทธิฯ หากพบปัญหาในการปรับปรุงระบบให้เป็น version ปัจจุบัน สามารถติดต่อศูนย์บริการข้อมูลแก้ไขปัญหาร้านค้า (Merchant Call Center) โทร 02-111-1111 กด 2 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

อ่านข่าวอื่นๆ

อากาศร้อน กฟน.คาดใช้ไฟฟ้าพีคสุดของปี พ.ค.นี้

"จุรินทร์" แจ้งเงินประกันรายได้ข้าว งวด 25 ออก 5 เม.ย.นี้

มติเอกฉันท์! กนง.ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.75% ต่อปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง