"ไข้หวัดแดดในเด็ก" โรคเด็กหน้าร้อนที่ไม่ควรมองข้าม

สังคม
3 เม.ย. 66
15:37
383
Logo Thai PBS
"ไข้หวัดแดดในเด็ก" โรคเด็กหน้าร้อนที่ไม่ควรมองข้าม
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เผยในฤดูร้อน นอกจากแสงแดดที่แรงแล้ว ยังมีเชื้อโรคที่แพร่ระบาด และทำให้ลูกเจ็บป่วยได้มากกว่าในฤดูอื่น แนะผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานของท่านอย่างใกล้ชิด

วันนี้ (3 เม.ย.2566)นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทยที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นและอากาศร้อนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเป็นช่วงที่เด็ก ๆ ปิดเทอม โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน ส่วนใหญ่ต่างพากันเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่พ้นจากการเจอแสงแดด อากาศร้อน และการรับประทานอาหารที่ไม่สะอาด ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้มากมาย ซึ่งเด็กๆ มีภูมิต้านทานไม่มากนักจึงมักเจ็บป่วยได้ง่าย ผู้ปกครองจึงควรใส่ใจสุขภาพของบุตรหลาน หมั่นสังเกตอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้น และหากพบความผิดปกติควรไปพบแพทย์เพื่อได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง

นายแพทย์อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กล่าวว่าโรคไข้แดด มีสาเหตุเกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ในช่วงหน้าร้อน ซึ่งอุณหภูมิภายนอกสูง อาการแสดงของโรคถูกกระตุ้นจากอากาศที่ร้อน ร่วมกับการรับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เข้าสู่ร่างกาย

อาการ

1.ไข้สูงอ่อนเพลีย
2.ปวดศีรษะ
3.คลื่นไส้
4.อาเจียน
5.เบื่ออาหาร
6.ครั่นเนื้อครั่นตัว
7.บางรายอาจมีตาแดง

วิธีการดูแลป้องกัน

1. ควรพักผ่อนให้เพียงพอ เด็กๆ ต้องนอนอย่างน้อยวันละ 8-10 ชั่วโมง
2. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาดต่อวันให้เพียงพอเพื่อลดการสูญเสียน้ำจากเหงื่อที่เสียไปในฤดูร้อน
3. หมั่นล้างมือบ่อยๆ หรือพกเจลล้างมือติดตัวเพื่อสะดวกในการล้างมือ
4. ออกกำลังกายเป็นประจำ
5. พยายามหลีกเลี่ยงไม่ไปใกล้ชิดปะปนกับคนที่เป็นหวัด ไอ น้ำมูก เพื่อลดโอกาสการรับเชื้อ 6. คุณพ่อคุณแม่หมั่นทำความสะอาดบ้าน ของเล่นที่ลูกใช้อยู่เป็นประจำเพื่อลดการสะสมเชื้อโรค
7. ไม่เข้าไปในสถานที่ที่มีคนอยู่แออัด ระบบการถ่ายเทอากาศไม่ดีเช่น ตลาดนัด โรงภาพยนตร์
8. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ให้แก่เด็ก โดยเริ่มฉีดได้ตั้งแต่เด็กอายุ 6 เดือนเป็นต้นไปและฉีดกระตุ้นซ้ำทุกปี ดังนั้นเด็กๆ จึงควรหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดด หรืออยู่ในสถานที่อากาศร้อนจัด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง