วันนี้ (3 เม.ย.2566) สำนักข่าว The Guardian รายงานว่า ประเทศญี่ปุ่น ได้เพิ่มตู้ขายของอัตโนมัติขนาดใหญ่ และหลากหลายด้วยโมเดลใหม่ที่ขายเนื้อหมีสด ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นที่นิยม ในจังหวัดอากิตะทางตอนเหนือได้ดึงดูดลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ติดตั้งเมื่อปลายปีที่แล้ว
ตามรายงานระบุว่า เนื้อหมี ที่วางจำหน่ายในตู้หยอดเหรียญขายในราคา 2,200 เยนต่อ 250 กรัม ได้รับความนิยมจากผู้โดยสารที่ลงที่สถานีรถไฟใกล้เคียงในเมืองเซมโบกุ และยังมีคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์จากโตเกียว
หนังสือพิมพ์ไมนิจิ ชิมบุน รายงานว่า เครื่องดังกล่าวระบุว่าเนื้อหมี เป็นสินค้าพิเศษประจำภูมิภาค มีหมีป่าที่ถูกฆ่าในท้องถิ่น และขายส่วนผสมของเนื้อไม่ติดมันและไขมัน
เนื้อมาจากหมีที่จับได้บนภูเขา โดยสมาชิกของชมรมล่าสัตว์ท้องถิ่น ซึ่งได้รับอนุญาตให้ฆ่าจำนวนหนึ่งในช่วงฤดูล่าสัตว์ประจำปี
การบริโภคเนื้อหมีสูงที่สุดในภาคเหนือของญี่ปุ่น มีทั้งแปรรูปบรรจุขายแบบกระป๋อง แกงกะหรี่สำเร็จรูป ซึ่งบางคนเปรียบได้กับเนื้อกวาง มักเสิร์ฟในสตูว์ โฆษกของ Soba Goro กล่าวกับ ไมนิจิ บอกว่า
เนื้อหมีมีรสชาติที่สะอาด และไม่แข็ง
ตู้ขายของอัตโนมัติที่มีอยู่ทั่วไปในญี่ปุ่นขายอาหารมากมาย ตั้งแต่อาหารหลัก เช่น เครื่องดื่มร้อนและเย็น ไปจนถึงแมลงที่กินได้และแฮมเบอร์เกอร์
ข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตระบบหยอดเหรียญของญี่ปุ่น ระบุมีการผลิตเครื่องจักรสูงสุดที่ 5.6 ล้านในปี 2543 หรือหนึ่งเครื่องต่อ 23 คน และเหลือเพียง 4 ล้านภายในปี 2563 แต่ญี่ปุ่นยังคงมีเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติต่อหัวจำนวนมากที่สุดในโลก
Kyodo Senpaku บริษัทล่าวาฬที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นเพิ่งเริ่มขายเนื้อวาฬ จากตู้ขายอัตโนมัติ เพื่อพยายามกระตุ้นการบริโภค บริษัทวางแผนที่จะติดตั้งใน 100 แห่งทั่วประเทศในอีก 5 ปีข้างหน้า
สำหรับการเผชิญหน้าของหมีป่ากับคน เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2552 จาก 4,800 ตัวในปี 2552 เป็นมากกว่า 20,000 ตัวในปี 2563 เมื่อมีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บ 158 คน
ทั้งนี้มีข้อมูลจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมระบุว่า การโจมตีของหมีที่อันตรายที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งเรียกโดยรวมว่าเหตุการณ์ซังเคเบตสึ หมีสีน้ำตาลขนาด 8.85 ฟุต (2.7 เมตร) หนักกว่า 300 กิโลกรัมได้สังหารชาวบ้าน 7 คนและบาดเจ็บอีก3 คนบนเกาะหลักทางตอนเหนือของเกาะฮอกไกโดในปี พ.ศ. 2458 หมีถูกติดตามและถูกยิงตายโดยนักล่า
แท็กที่เกี่ยวข้อง: