ครม.เสนอชุดพื้นเมืองสตรีภาคใต้ "เคบายา" ขึ้นทะเบียนยูเนสโก

สังคม
11 เม.ย. 66
15:44
1,340
Logo Thai PBS
ครม.เสนอชุดพื้นเมืองสตรีภาคใต้ "เคบายา" ขึ้นทะเบียนยูเนสโก
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ครม.เสนอ "เคบายา" ชุดพื้นเมืองสตรีภาคใต้ ขึ้นทะเบียนยูเนสโก เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ร่วม 4 ประเทศ มาเลเซีย บรูไน อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ ชี้จะเป็น Soft Power อย่างหนึ่งของไทย

วันนี้ (11 เม.ย.2566) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบเสนอ ชุดเสื้อเคบายา (Kebaya) ซึ่งเป็นชุดพื้นเมืองสตรีภาคใต้ ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก (UNESCO) ร่วมกับประเทศมาเลเซีย บรูไน อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ

ทั้งนี้ ในรายงานเอกสารที่ทำส่งต่อยูเนสโก มีชื่อว่า เคบายา: ความรู้ ทักษะ ประเพณีและการปฏิบัติ (Kebaya: Knowledge, Skills, Tradition and Practices) มีสาระสำคัญเกี่ยวกับข้อมูลในภาพรวมเสื้อเคบายาของทุกประเทศ

ในส่วนของไทยได้ระบุถึงการสืบทอด โดยถ่ายทอดทักษะในการทำเสื้อเคบายาให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ ส่งเสริมการนำไปใช้ในงานประเพณีพิธีกรรมและงานเทศกาล การจัดเก็บข้อมูลองค์ความรู้ งานวิจัย และนำเสนอความรู้ในสื่อสิ่งพิมพ์สื่อดิจิทัล รวมทั้งการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชนในการสงวนรักษาของชุมชน ซึ่งมีรายละเอียด อาทิ

ชุดพื้นเมืองสตรีใส่ได้ทั้งงานทางการ -งานเทศกาล  

เคบายา เป็นชุดพื้นเมืองของสตรี “ไทย - เพอรานากัน” หรือ “ บาบ๋า – ย่าหยา” ในพื้นที่ส่วนใหญ่ทางภาคใต้ของไทย สามารถพบได้ใน จ.ภูเก็ต พังงา ระนอง กระบี่ ตรัง และสตูล

สตรีพื้นเมืองจะนำมาสวมใส่ทั้งงานทางการ งานสังสรรค์ และงานเทศกาลต่าง ๆ โดยเชื่อมโยงไปถึงชุมชนและกลุ่มต่าง ๆ เช่น ช่างฝีมือ นักออกแบบ สมาคมธุรกิจ นักสะสม และกลุ่มศิลปะการแสดง

ที่ผ่านมา เคบายา ได้รับการประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติประจำปี 2555 โดยมีความสอดคล้องเป็นมรดกทางวัฒนธรรมร่วมกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายประเทศ

เช็กเกณฑ์การพิจารณาของยูเนสโก

สำหรับคุณสมบัติของเคบายาที่ตรงตามหลักเกณฑ์การพิจารณาของยูเนสโก อาทิ เคบายาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน โดยมักจะมีการสวมใส่ในโอกาสสำคัญต่าง ๆ รวมถึงการสวมใส่สำหรับแสดงศิลปวัฒนธรรม เช่น การเต้นรำแบบดั้ง เดิมและร่วมสมัย

นอกจากนี้ การทำเสื้อเคบายาต้องใช้ทักษะและความรู้เฉพาะด้าน เช่น การออกแบบ การเลือกและการตัดผ้าและส่วนประกอบ การตัดเย็บ การปักแบบต่าง ๆ ส่วนมาตรการสงวนรักษาของไทย อาทิ

  •  การถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านการศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบ รวมถึงการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างชุมชนทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ
  • ส่งเสริมการศึกษาวิจัยและจัดเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมการสวมใส่เสื้อเคบายาอย่างต่อเนื่อง
  • สนับสนุนการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมการสวมใส่เสื้อเคบายาให้อยู่ในสังคมร่วมสมัย
  • สนับสนุนเงินทุนและการสนับสนุนเชิงเทคนิคให้กับชุมชน ผู้เกี่ยวข้องกับการผลิตและใช้งานเสื้อเคบายา เพื่อให้มีความต่อเนื่องในการรักษาวัฒนธรรมเคบายาจากรุ่นสู่รุ่น

Soft Power ของไทย กระตุ้นการอนุรักษ์

น.ส.รัชดา กล่าวว่า การเสนอขึ้นทะเบียนมรดกร่วม “เคบายา” ครั้งนี้ จะเป็น Soft Power อย่างหนึ่งของไทย นอกจากจะกระตุ้นให้เกิดการอนุรักษ์ และสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์และบทบาทของไทยในเวทีโลกที่เป็นตัวอย่างในความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย

ทั้งนี้ การเสนอรายการมรดกร่วม “เคบายา” กับ 4 ประเทศ ถือเป็นครั้งแรกของไทย ที่ผ่านมาไทยได้เสนอขึ้นบัญชีรายการมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในนามของไทยเพียงประเทศเดียว ได้แก่ โขน นวดไทย และโนรา ซึ่งยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติแล้ว เมื่อปี 2561 2562 และ 2564 ตามลำดับ ส่วนสงกรานต์ในไทย ต้มยำกุ้ง และผ้าขาวม้า อยู่ระหว่างการพิจารณา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง