ผงะ "ยาอี"แฝงซองเครื่องดื่มเกลือแร่-คอลลาเจนขายผ่านโซเชียล

อาชญากรรม
12 เม.ย. 66
14:12
1,081
Logo Thai PBS
ผงะ "ยาอี"แฝงซองเครื่องดื่มเกลือแร่-คอลลาเจนขายผ่านโซเชียล
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ผงะ! ยาอีแบบใหม่ แฝงในซองเครื่องดื่มเกลือแร่-คอลลาเจนขายราคาซองละ 1,500 บาท โพสต์ขายผ่านโซเชียล ป.ป.ส.เผยแหล่งผลิตจากสามเหลี่ยมทองคำ เตือนโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

วันนี้ (12 เม.ย.2566) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ป.ป.ส.ได้รับแจ้งเบาะแสการโพสต์ซื้อ-ขายยาเสพติด ผ่านแอปพลิเคชัน tiktok พบมีการโพสต์จำหน่ายลักษณะคล้ายกับยาอีรูปแบบใหม่ บรรจุมาในซองคอลลาเจน

จึงสั่งการให้ตรวจสอบชื่อบัญชีผู้ใช้ติ๊กต็อกดังกล่าว และพบว่ามีการโพสต์จำหน่ายยาเสพติดลักษณะคล้ายยาอี และเคตามีน บรรจุในซองเครื่องดื่มเกลือแร่ ซองเครื่องดื่มคอลลาเจน และซองกาแฟสีดำ

โดยโพสต์แจ้งเบอร์โทรศัพท์สำหรับติดต่อซื้อ-ขายเป็นเบอร์โทรศัพท์ และ WhatsApp ของประเทศเพื่อนบ้าน พบว่ามีสมาชิกบัญชีติ๊กต็อกเข้ามาติดต่อขอซื้อทั้งคนไทยและประเทศเพื่อนบ้าน แจ้งราคาจำหน่ายซองละ 1,500 บาท ราคาส่งซองละ 1,200 บาท โดยจำหน่ายในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ยังไม่มีบริการจัดส่งเข้ามา ในประเทศไทย

นายวิชัย กล่าวว่า ในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมาเราพบยาเสพติดประเภท club drug หรือยาเสพติดที่ใช้ในสถานบันเทิง ซึ่งประกอบด้วย ยาอี และยาเค เป็นส่วนใหญ่ ถูกนำมาขายในรูปแบบการบรรจุใส่ซอง เช่นซองกาแฟ หรือในกรณีนี้พบเป็นซองคอลลาเจน โดยเป็นรูปแบบของการปกปิดอำพรางของนักค้ายาเสพติด

ยาเสพติดที่บรรจุซองขายในลักษณะนี้มักเป็นการรวมของยาเสพติดประเภท club drug หรือวัตถุออกฤทธิ์หลายประเภทรวมกัน การที่ไม่รู้ส่วนผสมและการใช้ยาเสพติดหลายประเภทพร้อมกันอันตราย เช่นเคยปรากฎในกรณี ยาเคนมผง ซึ่งเป็นการนำวัตถุออกฤทธิ์กลุ่มยานอนหลับ ไปบดเป็นผง และผสมกับยาเสพติดและส่งผลให้ผู้ใช้เสียชีวิตจากการใช้ยาเสพติดดังกล่าว

เลขาฯ ป.ป.ส.กล่าวว่า ป.ป.ส.ได้มีการติดตามเฝ้าระวัง และตรวจสอบบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ ที่มีพฤติการณ์โพสต์จำหน่ายยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง การโพสต์โฆษณาจำหน่ายยาเสพติด เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 137 ผู้ใดโฆษณาเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง