ป.ป.ส.ขยายผลจับ "คีตามีน" 347 กรัม ส่งพัสดุจากไทยไปไต้หวัน

อาชญากรรม
13 เม.ย. 66
10:51
209
Logo Thai PBS
 ป.ป.ส.ขยายผลจับ "คีตามีน" 347 กรัม ส่งพัสดุจากไทยไปไต้หวัน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ป.ป.ส.เผยผลงานหน่วย AITF ร่วมมือกับไต้หวัน จับกุมผู้ต้องหาพร้อมพัสดุซุกซ่อนคีตามีน 347 กรัม ส่งจากไทย กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มการตรวจตรา เร่งขยายผลไปให้ถึงตัวการ

วันนี้ 13 เม.ย.2566 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยถึงผลงานความร่วมมือกับไต้หวันขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวไต้หวัน ขณะทำการรับพัสดุซุกซ่อนยาเสพติด (คีตามีน) ที่ถูกส่งมาจากประเทศไทย

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 เม.ย.2566 ที่ผ่านมา สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยสกัดกั้นยาเสพติดผ่านท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task Force หรือ AITF) ประกอบด้วย กรมศุลกากร กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ศูนย์รักษาความปลอดภัย ร่วมกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ตรวจยึดพัสดุระหว่างประเทศ (ขาออก) ต้องสงสัย จำนวน 1 กล่อง เมื่อทำการตรวจสอบพบคีตามีน น้ำหนักประมาณ 348 กรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในห่อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และห่อขนมขบเคี้ยว ปลายทางการจัดส่งไปที่ไต้หวัน เหตุเกิดที่ ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

เมื่อทำการตรวจสอบพบว่า มีพัสดุต้องสงสัยในลักษณะเดียวกันกับที่ซุกซ่อนคีตามีนของกลางที่พบในครั้งนี้ โดยระบุชื่อผู้รับ ผู้ส่ง และสถานที่ปลายทางเดียวกัน ได้ถูกจัดส่งออกไปยังไต้หวันก่อนหน้าแล้ว จำนวน 1 กล่อง และน่าเชื่อว่าในกล่องพัสดุนั้น มียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ ตนจึงมอบหมายให้นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด เร่งประสานส่งข้อมูลผู้รับพัสดุให้กับกรมสอบสวน กระทรวงยุติธรรมไต้หวัน (Ministry of Justice Investigation Bureau : MJIB) เพื่อสืบสวนขยายผลผู้รับพัสดุต่อไป

จนมาวันที่ 11 เม.ย.2566 เจ้าหน้าที่ MJIB จึงได้จับกุม นายเลี่ยว อี่ เว่ย ชาวไต้หวัน พร้อมคีตามีน น้ำหนัก 347 กรัม ขณะทำการรับพัสดุซุกซ่อนยาเสพติด ที่ถูกส่งมาจากประเทศไทย จากการตรวจสอบ นายเลี่ยว อี่ เว่ย ไม่มีหนังสือเดินทาง และไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศ แต่พบว่ามีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

เลขาธิการ ป.ป.ส ได้กำชับกับเจ้าหน้าที่เพิ่มการตรวจตราอย่างหนาแน่นให้มากกว่าเดิม โดยเฉพาะในช่วงหน้าเทศกาลสำคัญ และจะเร่งขยายผลเพื่อไปให้ถึงตัวการต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง