แม้ ส.ส.ปี 2562 ส่วนใหญ่จะย้ายพรรคตามกระแสนิยมของนักการเมือง โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดส.ส.มากในลำดับต้นๆ แต่พรรคการเมืองอื่นก็เตรียมพร้อมรับมือเช่นกัน
เขต 1 แม้จะมีการขยับตัวประสานระหว่างพรรคเพื่อไทยกับ “บ้านใหญ่” ตระกูลชามพูนท ส่ง น.ส.ณัฐทรัชต์ ชามพูนท อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพิษณุโลก ลงสมัคร แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแชมป์เก่า “หมออ่อง” นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ซึ่งก่อนหน้านี้ มีข่าวลือหนาหูว่า อาจมีการโยกย้ายพรรค แต่สุดท้ายยังคงสมัครในนามพรรคก้าวไกล ถือเป็นก้างขวางคอชิ้นโต
![น.ส.ณัฐทรัชต์ ชามพูนท อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพิษณุโลก ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMho4BesvCA5JWk71JvscWU9UItth.jpg)
น.ส.ณัฐทรัชต์ ชามพูนท อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพิษณุโลก ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย
น.ส.ณัฐทรัชต์ ชามพูนท อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพิษณุโลก ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย
และไม่ใช่เฉพาะกับผู้สมัครพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ยังรวมทั้ง นายบวรเดช หล้าแหล่ง อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ เมื่อปี 2562 ครั้งนี้ลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทย สายตรง “ครูใหญ่” จ.บุรีรัมย์ ที่มาแรงแซงโค้งตัดหน้าว่าที่ผู้สมัครของพรรคอีก 2 คนในที่สุด
พรรคประชาธิปัตย์ ส่งนายจักษ์ พันธ์ชูเพชร อดีตนักวิชาการ อดีตผู้ร่วมเวทีชุมนุม กปปส. หวังทดแทนการจากไปของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส. ที่ย้ายไปตั้งพรรคไทยภักดี
![นายบวรเดช หล้าแหล่ง ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMho4BesvCA5JWk71XKl7QnG7Znxb.jpg)
นายบวรเดช หล้าแหล่ง ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย
นายบวรเดช หล้าแหล่ง ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย
ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ภายใต้การจัดทัพของ เสธ.หิ หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และบางส่วนในพื้นที่ภาคกลาง ส่งนายธนิท กิตติจารุรักษ์ ลงชิงชัย อีกคนที่จะตัดคะแนนในเขตเลือกตั้งนี้ คือ พรรคพลังประชารัฐ” ที่ส่ง สจ.อดุลยวิทย์ วิวัฒน์ธนาฒย์ ลูกชาย นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายก อบจ.พิษณุโลก ลงประกบ
เขต 2 นายนพพล เหลืองทองนารา ส.ส.ปี 2562 ยังปักหลักอยู่พรรคเพื่อไทยเช่นเดิม ลงสมัครหวังรักษาเก้าอี้ส.ส.ไว้อีก 1 สมัย ตามกระแสแลนด์สไลด์ที่ยังไม่ตก คู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อยังมองไม่เห็น เช่นเดียวกับเชตเลือกตั้งที่ 4 นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.ปี 2562 ที่มีคะแนนมากถึง 4 หมื่นคะแนน ครั้งนี้ย้ายจากพรรคเพื่อไทยไปซบพรรคภูมิใจไทย ยังหาคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อยากพอประมาณ
อีก 2 เขตที่จะเป็นเขตหินแน่ ๆ ของพิษณุโลก คือเขตเลือกตั้งที่ 3 และเขตเลือกตั้งที่ 5 โดยเขต 3 ส.ส.เก่าปี คือ นายอนุชา น้อยวงษ์ พรรคพลังประชารัฐ ชนะนายพงษ์มนู ทองหนัก จากพรรคประชาธิปัตย์ เพียง 200 คะแนน เลือกตั้งครั้งใหม่ นายอนุชา ย้ายไปลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทย
![นายอนุชา น้อยวงษ์ พรรคพลังประชารัฐ](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMho4BesvCA5JWk7ylwuYCVBOWvKx.jpg)
นายอนุชา น้อยวงษ์ พรรคพลังประชารัฐ
นายอนุชา น้อยวงษ์ พรรคพลังประชารัฐ
ขณะที่นายพงษ์มนู ย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ ถือว่าสูสี ค่ายใหญ่ด้วยกันทั้งคู่ ขณะที่พรรคเพื่อไทย ส่งคนรุ่นใหม่ ที่ลงพื้นที่หาเสียงอย่างต่อเนื่อง นายจเด็ศ จันทรา ก็ตุนคะแนนใส่กระเป๋าไว้มากโข ยังไม่นับกรณีแกนนำพรรค ทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน และ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ยกพลชุดใหญ่ขึ้นไปช่วยหาเสียงเมื่อเดือนีนาคมที่ผ่านมา
ส่วนเขต 5 แชมป์เก่าครั้งที่แล้ว นายมานัส อ่อนอ้าย เป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ครั้งนี้ไม่ลงสมัคร เพราะปัญหาสุขภาพ เดิมทีเตรียมส่งลูกชาย นายชนะชน อ่อนอ้าย ลงสมัคร ส.ส.ในสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมีเสธ.หิ เป็นโตโผใหญ่ส่งเข้าประกวด แต่ต่อมาเกิดปัญหาไม่ลงตัวเกิดขึ้น สุดท้ายนายชนะชน เปิดตัวเป็นผู้สมัครส.ส.พรรคไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์
ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดตัว พ.ต.อ.ธรธวัช แจ่มอุดมโชต อดีต ผกก.สภ.วังทอง และอดีตผกก.สภ.นครไทย ลงสมัครแทน จึงจะเป็นการพิสูจน์บารมีและศักยภาพของ 2 พรรคใหญ่ แต่ต้องไม่ประสาท นายธนวิน โรจน์สุนทรกิตติ จากพรรคเพื่อไทย
อีกคนที่หวังกลับมาแจ้งเกิดในเขตนี้ คือนายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แต่ครั้งที่แล้วย้ายค่ายไปพรรคเพื่อไทย คะแนนตามมาห่างๆในอันดับที่ 3 ครั้งนี้ ได้สังกัดดีคือพรรคภูมิใจไทย อาจได้แรงฮึดในโค้งสุดท้าย
สรุปแล้ว เขต 1 เขต 3 และเขต 5 ถือว่าเป็นเขตเลือกตั้งหิน ใคร จากพรรคการเมืองไหนเข้าวิน ต้องเลือดตาแทบกระเด็นอย่างไม่ต้องสงสัย ต้องไม่ลืมว่า จ.พิษณุโลก มีกองพลทหารราบที่ 4 และค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตั้งอยู่ ฐานะคะแนนเสียงส่วนหนึ่งจึงมาจากเหล่าทหารนี้ด้วย
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา
ขอบคุณภาพ : www.phitsanulokhotnews.com